​DibdeeBangkok จับน้ำอบน้ำปรุงไทย มาแต่งตัวใหม่เก๋ไก๋แปลกตา





 


     ได้โอกาสเหมาะใกล้ช่วงเทศกาลวันสงกรานต์ ผู้ประกอบการหลายคนต่างเร่งผลิตสินค้าเพื่อเตรียมขายกันจ้าละหวั่น โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าที่ขายดีอยู่ในขณะนี้ ปืนฉีดน้ำ เสื้อลายดอก น้ำอบ น้ำปรุง ดินสอพอง ในขณะที่บางคนอาจถือเป็นกฤษ์งามยามดีเปิดตัวขึ้นมาลองทำอะไรใหม่ๆ ในช่วงนี้เสียเลย DibdeeBangkok เพจเปิดใหม่ที่มีอายุได้เพียงเดือนเศษ จำหน่ายชุดของขวัญสินค้าแบบไทยๆ ก็เป็นหนึ่งในนั้น

 
     แม้จะยังเป็นเพียงหน้าเพจเล็กๆ ที่มียอดคนกดไลค์อยู่ไม่เท่าไหร่ แต่ไอเดียความคิดก็ไปเข้าตาลูกค้าที่กำลังมองหาชุดของขวัญของใช้ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ จนมีการนำไปบอกต่อในเว็บไซต์พันทิป โดยสิ่งที่ DibdeeBangkok ทำนั้นเป็นไอเดียเริ่มต้นแบบง่ายๆ ด้วยการรวบรวมแบรนด์สินค้าที่เป็นของดีของไทยดั่งเดิมมานำเสนอด้วยการจับมาแต่งตัวใหม่ ขายเป็นชุดพร้อมใช้งาน ใส่ดีไซน์ลงไป จุดประสงค์ก็เพื่อช่วยส่งเสริมอนุรักษ์สินค้าเหล่านั้นไม่ให้ถูกลืมเลือนจากคนรุ่นใหม่ เพราะสินค้าบางตัวเด็กยุคใหม่บางคนอาจจะยังไม่เคยเห็นด้วยซ้ำ





     อารยา ภัครังสิสกุล เจ้าของไอเดียความคิดดังกล่าว เล่าว่าเดิมทำงานเกี่ยวกับการออกแบบแพ็กเกจจิ้ง เมื่อถึงเวลาหนึ่งจึงคิดอยากลองหาอะไรเล็กๆ ทำของตัวเอง เมื่อเห็นว่าเป็นช่วงใกล้กับเทศกาลสงกรานต์ จึงลองเริ่มต้นง่ายๆ ด้วยการนำสินค้าที่เห็นได้ทั่วไปตามท้องตลาด เช่น น้ำอบ น้ำปรุง ดินสอพอง ขันรดน้ำ มาแต่งตัวเสียใหม่ โดยจัดเป็นเซ็ตของขวัญขึ้นมาในรูปแบบร่วมสมัย เพื่อนำไปมอบเป็นของขวัญหรือถือเป็นชุดเก๋ๆ เพื่อนำไปรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ ซึ่งที่มาของชื่อ Dibdee นั้นมาจากคำว่า ‘ดิบดี’ แปลว่า ดี เรียบร้อย นั่นเอง


     “แนวคิดของเรา คือ อยากจะนำสินค้าไทยดั่งเดิมที่ดีมีคุณค่า มานำเสนอในรูปแบบร่วมสมัยมากขึ้น เข้าถึงได้ง่ายขึ้น เพื่อให้คนรุ่นใหม่หันมาสนใจสินค้าไทยมากขึ้น เพราะหลายตัวที่มีอยู่ในท้องตลาดเป็นสินค้าที่ดี แต่คนรุ่นใหม่บางคนอาจยังไม่เคยรู้จักสินค้าเหล่านี้ด้วยซ้ำ ไม่รู้ว่าใช้งานยังไง เราจึงอยากช่วยอนุรักษ์เก็บไว้ ไม่อยากให้เลือนหายไป โดยนำมาจัดเป็นชุดให้ง่ายต่อการใช้งาน จากนั้นจึงนำมาดีไซน์แพ็กเกจจิ้งใส่หีบห่อให้ดูมีความทันสมัย น่าใช้งานมากยิ่งขึ้น อย่างพวกชุดน้ำอบน้ำปรุงไทยเอง เราก็ออกแบบใส่ถุงผ้าให้ดูเหมือนสไป เพื่อให้เขานำไปเป็นของฝากได้ด้วย”





     ชุดของขวัญของดิบดีนั้นมีให้เลือก 3 ชุดด้วยกัน ได้แก่ 1.ชุดน้ำอบน้ำปรุง ประกอบด้วย น้ำอบนางลอย น้ำอบปรุงเจ้าคุณ ขันเงิน ขันทองเล็ก ราคา 255 บาท 2.ชุดน้ำอบไทย (Mini Set) ประกอบด้วย น้ำอบนางลอย ดินสอพอง ขันเงิน หรือ ขันทอง ราคา 99 บาท และ3.แป้งดินสอพอง ราคากระปุกละ 69 บาท โดยจำหน่ายผ่านทางเพจเฟซบุ๊กช่องทางเดียว

  
     ถึงจะเปิดตัวออกมาได้ไม่นานนัก แต่อารยาเล่าว่าพอได้เห็นรูปเซ็ตที่จัดก็มีคนให้ความสนใจและสอบถามเข้ามาเยอะ จนไม่สามารถผลิตให้ได้ทัน เพราะนี่ก็เป็นเพียงจุดเริ่มต้นลองทำชิมลางไปก่อน แต่อย่างน้อยๆ ก็ได้รู้แล้วว่ามีคนสนใจและต้องการอยู่




 
     “ทำตรงนี้ อาจได้ไม่เยอะมาก เพราะเราเอาของที่มีอยู่แล้วมาทำ แต่ก็เป็นความตั้งใจที่อยากจะช่วยอนุรักษ์แบรนด์ไทยๆ ไว้ไม่ให้หายไป ยังมีสินค้าไทยดีๆ อีกมากที่มีอยู่ในท้องตลาด แต่อาจไม่ค่อยเป็นที่รู้จักของคนรุ่นใหม่ ซึ่งเราอาจเริ่มต้นจากเทศกาลสงกรานต์นี้ไปก่อน จากนั้นจึงคอยขยับไปยังเทศกาลอื่นๆ ต่อ รวมถึงอนาคตถ้าไปได้ดีอาจผลิตสินค้าของตัวเองออกมาวางจำหน่ายด้วย โดยเน้นผลิตสินค้าไทยเป็นหลัก และนำมาจัดเป็นชุดๆ ออกแบบดีไซน์แพ็กเกจจิ้งให้มีความทันสมัยและใช้งานได้ง่ายขึ้นด้วย”


     แม้เป็นเพียงแนวคิดแบบง่ายๆ แต่กลับเป็นที่ต้องการของตลาด บางครั้งธุรกิจก็อาจเริ่มต้นขึ้นได้ง่ายๆ แบบนี้แหละ ขอเพียงคิดและลงมือทำ ค่อยๆ เรียนรู้ไปสักเราอาจเจอหนทางของตัวเองเข้าสักวันหนึ่ง





Facebook: DibdeeBangkok


www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

tISI แบรนด์แฟชั่นย้อมสีธรรมชาติ ส่วนผสมลงตัวงานคราฟต์ไทยกับดีไซน์ร่วมสมัย ที่ฝันว่าวันหนึ่งจะไปตั้งขายอยู่กลางกรุงปารีส

ปัญหาหนึ่งของงานคราฟต์ไทย ที่ทำให้ไม่ได้รับความนิยมมากเท่าที่ควร แม้จะเป็นงานทรงคุณค่า ก็คือ ไม่สามารถนำมาประยุกต์ใช้จริงอยู่ในชีวิตประจำวันได้ แต่อาจไม่ใช่กับ tISI (ธิซายด์) แบรนด์แฟชั่นไทยน้องใหม่ที่มองว่าไม่จำเป็นต้องอนุรักษ์ หากสิ่งนั้นเป็นที่ต้องการอยู่แล้ว

สานต่อตำนาน 70 ปี ทายาทรุ่น 3 ปัดฝุ่น รร.แสงทองเฮอริเทจ สู่แลนด์มาร์คใหม่แห่งนครพนม

เพราะความฝันที่จะสานต่อโรงแรมเก่าแก่ "แสงทอง" ที่บรรพบุรุษสร้างขึ้น กรรณิการ์ หนูห่วง ทายาทรุ่นที่ 3 จึงตัดสินใจกลับ จ.นครพนม เพื่อหวังฟื้นฟูโรงแรมที่มีสถาปัตยกรรมโบราณให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ท่ามกลางความไม่เห็นด้วยของครอบครัว และโจทย์หินมากมาย

วิธีเปลี่ยนไอเดีย “ตัน” เป็น “มันส์” แบบ Matty Benedetto ยอดนักประดิษฐ์จอมกวน  

เพราะคำว่า “ไม่จำเป็น” ≠ “ไม่มีประโยชน์” ชิ้นงานแสนฮาของ Matty Benedetto “อัจฉริยะผู้ชั่วร้าย” จึงเป็นตัวอย่างชั้นดีให้กับผู้ประกอบการที่ตกอยู่ในอาการไอเดียตัน คิดอยากทำผลิตภัณฑ์ใหม่หรือพัฒนาผลิตภัณฑ์เดิมได้ลองมาเรียนรู้กัน