หลังจากประสบความสำเร็จจากการปรับโฉมธุรกิจโรงรับจำนำ จนสามารถตอบความต้องการของลูกค้ายุคใหม่ได้เป็นอย่างดี ได้เวลาที่ มันนี่ คาเฟ่ จะขยับรุกธุรกิจไปอีกขั้น ด้วยการบุกตลาดสินค้าแบรนด์เนมมือสอง เพื่อต่อยอดโอกาสทางธุรกิจให้มากขึ้น .
ชูศักดิ์ ตั้งเลิศสัมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มันนี่ คาเฟ่ จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากที่เปลี่ยนภาพลักษณ์ใหม่ของโรงรับจำนำ Money Pinkoo (มันนี่ ปิ่นคู่) ให้ดูทันสมัยขึ้น โดยที่ผ่านมา เราเห็นพฤติกรรมลูกค้ามาโดยตลอด จนเราเริ่มเข้าใจว่าอะไรคืออุปสรรค ที่ทำให้ลูกค้าไม่ค่อยกล้าเข้าโรงรับจำนำ อย่างแรกเลยคือ ภาพลักษณ์ ทัศนคติ ซึ่งเป็นสิ่งที่เราสามารถเเก้ไขได้ โดยสร้างเซอร์วิสใหม่ๆ และทัศนะคติที่ดีให้กับลูกค้า ซึ่งตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา สามารถพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าลูกค้าเริ่มเข้าใจโรงรับจำนำในอีกรูปแบบหนึ่ง และกล้าที่จะเข้ามาหาเรามากขึ้น
จากนั้นก็พยายามคิดต่อยอดธุรกิจโรงรับจำนำของที่บ้าน อยากจะทำให้เกิดพาร์ทของธุรกิจของ แบรนด์เนมมือสองประเภทอื่นๆ อย่างเช่น กระเป๋า นาฬิกา ฯลฯ เลยไปติดต่อ Brand Off Tokyo ร้านซื้อขาย แลกเปลี่ยนสินค้าแบรนด์เนมมือสองรายใหญ่ของญี่ปุ่นที่มีสาขากว่า 50 แห่งทั่วประเทศ ให้มาเปิดในเมืองไทย โดยทำ Proposal เสนอไป ประกอบกับแบล็คกราวน์ที่บ้านเป็นธุรกิจโรงรับจำนำ ซึ่งเกื้อกูลและสนับสนุนซึ่งกันและกันกับแนวทางธุรกิจของเขา ในที่สุดก็ได้มีโอกาสทำธุรกิจ Brand Off Tokyo ที่เมืองไทย โดยใช้ชื่อว่า Brand Off Tokyo by Money Café ซึ่งมีแพลนเปิดในช่วงเดือนพฤษภาคมนี้
โดยยังคงคอนเซปต์เรื่อง Sharing Economy และ Sharing Happiness เพราะหลายคนมักคิดว่าธุรกิจที่จำหน่าย หรือซื้อขายสินค้าแบรนด์เนม มักจะมีหลายพาร์ทที่เราต้องเป็นห่วง เช่น ความคุ้มค่า ราคา และสภาพของสินค้า ซึ่งเราเป็นตัวกลาง และมีประสิทธิภาพในการทำบทบาทตรงนี้ได้ดีของธุรกิจขายสินค้าแบรนด์เนมมือสอง ที่เปรียบได้กับการตอบโจทย์สังคม ทั้งในเรื่องของการบริการทรัพยากรอย่างมีคุณค่า และความสุขที่ส่งต่อกันได้ผ่านของแบรนด์เนม
นอกจากนี้ ยังมี Specialist จากญี่ปุ่น ที่มาดูแลทั้งในเรื่องของคุณภาพสินค้า ความเป็นมาตรฐานที่ไว้ใจได้ในหลายๆ ประเทศ รวมทั้งข้อดีของการเป็น International Brand ทำให้เราจะมีแหล่งในการหาของที่วาไรตี้มากกว่า บวกกับเรื่องราวอันยาวนานของ Brand Off Tokyo ซึ่งเปิดมานานกว่า 25 ปี มีระบบเทรนนิ่งทั้งภายในและภายนอก แม้แต่บุคลากรที่เข้ามาทำงานในบ้านเราก็ผ่านการเทรนนิ่งมาแล้ว นอกจากนี้ Brand Off Tokyo ยังอยู่ในสมาคม AACD (The Association Against Counterfeit Product Distribution) สมาคมที่ต่อต้านและป้องกันสินค้าเลียนแบบ ซึ่งทำให้ลูกค้าของ Brand Off Tokyo เกิดความมั่นใจได้ทั้งเรื่องคุณภาพ ราคา และสินค้าที่เป็นของแท้ 100%
“ทรัพยากรทุกวันนี้มีอยู่อย่างจำกัด การใช้สินค้ามือสองทำให้ลดทรัพยากร และปริมาณขยะได้เป็นอย่างดี ทำให้คนมองสินค้าแบรนด์เนมมือสองเป็นสินค้าที่คุ้มค่า เพราะต้นทุน ความสุข และความพึงพอใจทุกอย่างก็จะถูกแชร์กันไป ถึงที่สุดแล้วก็จะดีกับตัวบุคคล สังคม และโลกต่อไปได้ เราจึงอยากจะให้ Brand Off Tokyo by Money Café เป็นองค์กรที่ยึดมั่นในชุดความคิดของ Sharing Economy เพื่อให้ผู้บริโภคใช้สินค้าที่มีคุณภาพในราคาที่ถูกลง และช่วยโลกในเรื่องของการผลิตที่ลดลงได้” ชูศักดิ์ กล่าวทิ้งท้าย
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านซื้อขาย แลกเปลี่ยนสินค้าแบรนด์เนมมือสอง จึงได้จัดงาน Brand Off Tokyo Market Place ขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย เมื่อวันที่ 30 มีนาคม-1 เมษายน ที่ผ่านมา เพื่อให้ขาช้อปและนักสะสมแบรนด์เนมทั่วฟ้าเมืองไทยมาร่วมซื้อ-ขายแบรนด์เนมหรูมือสองคุณภาพดีเลิศ โดยราคาที่รับซื้ออ้างอิงจากราคากลางของตลาดทั่วโลก พร้อมมีผู้เชี่ยวชาญจากประเทศญี่ปุ่น การันตีราคาและคุณภาพ กับหลากหลายไอเทมแบรนด์เนมสุดหรูมือสองรุ่นยอดฮิต, รุ่นหายาก และควรค่าแก่การครอบครอง อาทิ กระเป๋าแบรนด์เนมสุดหรูยอดนิยม, นาฬิกาแบรนด์ดังระดับโลก, จิวเวลรี่ชิ้นเก๋สุดเพอร์เฟ็กต์ และอื่นๆ อีกมากมาย
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี