ได้เห็นกระแสกันมาหลายปีแล้ว กับความนิยมในกลุ่มสินค้าสีเขียวหรือสินค้าเพื่อสิ่งแวดล้อมของผู้บริโภคยุคใหม่ที่นับวันดูจะมีเพิ่มขึ้นมากทุกที รวมไปถึงตัวผลิตภัณฑ์เองก็เช่นกัน มีการเพิ่มจำนวนออกมาวางขายอย่างเห็นได้ชัด ทั้งแบรนด์เกิดใหม่ แบรนด์เก่าที่ทำมานานก็มียอดขายเพิ่มขึ้นกว่าเดิมมาก VEERASA บรรจุภัณฑ์ ภาชนะจากกาบหมากรายแรกของไทยที่ดำเนินธุรกิจมากว่า 20 ปีก็เป็นหนึ่งในนั้น
นวรัตน์ ภิญโญ หนึ่งในทายาทผู้เข้ามาช่วยสานต่อกิจการของครอบครัว บริษัท ภิญโญวานิช จำกัด ผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์จากกาบหมากแบรนด์ ‘วีรษา’ (VEERASA) ให้พัฒนาเติบโตมากขึ้นได้เปิดเผยข้อมูลว่าในช่วง 1- 2 ปีที่ผ่านมานี้ หลังจากได้มีการเริ่มสร้างแบรนด์ขึ้นมาอย่างจริงจัง ทำให้มีลูกค้าเข้ามาให้ความสนใจเพิ่มมากขึ้น ยอดการสั่งผลิตเองก็เพิ่มขึ้นมาหลายเท่าตัวจนไม่สามารถผลิตได้ทันตามความต้องการของตลาด
“ในช่วง 1 – 2 ปีที่ผ่านมานี้ มีลูกค้าเข้ามาให้ความสนใจกันมากขึ้น จากเดิมกลุ่มลูกค้าที่เข้ามาจะเป็นการสั่งผลิตตามออร์เดอร์ เพื่อนำไปใช้ในงานอีเวนต์ การจัดงานเทศกาลต่างๆ แต่ปัจจุบันเริ่มมีรายใหญ่จากเหล่าซัพพลายเออร์ต่างๆ เข้ามาด้วย อย่างต้นปี 2560 ที่ผ่านมา เราเริ่มมีการจัดส่งให้กับท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เกต จากตอนแรกส่งเพียง 8 สาขา แต่ปัจจุบันขยายเพิ่มมากขึ้นกว่า 50 สาขา ภายในระยะเวลาเพียงปีกว่าเท่านั้น ยังมีลูกค้ารายใหญ่เจ้าอื่นๆ อีก รวมถึงลูกค้าจากต่างประเทศด้วยที่ติดต่อเข้ามา แต่เราไม่สามารถผลิตให้ได้ทัน โดยทุกวันนี้กำลังผลิตของเราอยู่ที่ 5 – 6 หมื่นชิ้นต่อเดือน แต่ออร์เดอร์ที่มีเข้ามามีมากกว่า 5 แสนชิ้นต่อเดือน ตอนนี้อยู่ในช่วงกำลังขอสินเชื่อเพื่อขยายกิจการกับทางแบงก์อยู่ ไม่เพียงแต่ลูกค้ารายใหญ่เท่านั้น กลุ่มผู้บริโภคโดยตรงเองก็เริ่มหันมาให้ความสนใจกับผลิตภัณฑ์ประเภทนี้เพิ่มมากขึ้นด้วย สังเกตได้จากเวลาไปออกงานแต่ละครั้ง จากเดิมรายได้โดยเฉลี่ยแต่ละวันอยู่ที่ไม่กี่พันบาท แต่เมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมากลับขยับเพิ่มขึ้นเป็น 1-2 หมื่นบาท/วัน แสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคเองก็เริ่มให้ความสนใจกับผลิตภัณฑ์ประเภทนี้เพิ่มมากขึ้นด้วย”
หากย้อนไปยังจุดเริ่มต้นของแบรนด์ นวรัตน์เล่าให้ฟังว่าเริ่มต้นขึ้นเมื่อประมาณปี 2538 จากแนวคิดของคุณแม่ (สุมาลี ภิญโญ) ที่คิดอยากหาภาชนะบรรจุอาหารที่ทำจากวัสดุธรรมชาติมาใช้ เพื่อนำมาใช้ในการจัดเลี้ยงอาหารแบบขันโตกในงานประเพณีชื่อดัง ‘กินเข่าค่ำ’ ของอำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา เนื่องจากได้รับมอบหมายหน้าที่ให้เป็นผู้รับผิดชอบในการจัดงาน ในสมัยนั้นภาชนะบรรจุอาหารส่วนใหญ่ยังทำมาจากโฟม ซึ่งดูไม่เข้ากับบรรยากาศย้อนยุคของงาน หากเป็นใบตองก็เกิดปัญหารั่วซึม ไม่แข็งแรง จึงได้ทดลองนำกาบหมาก ซึ่งมีการปลูกกันมากในอำเภอสูงเนินในขณะนั้นมาลองปั๊มขึ้นรูป โดยมีคุณพ่อเข้ามาช่วยคิดเรื่องเครื่องจักรให้ จากผลิตเพื่อนำมาใช้ในการจัดงานเลี้ยง เมื่อเริ่มมีผู้สนใจต้องการใช้งานมากขึ้น จึงเริ่มมีการผลิตสั่งตามออร์เดอร์และออกจำหน่ายในงานต่างๆ จนกระทั่งสร้างแบรนด์ขึ้นมาจริงจังเมื่อปี 2558 โดยใช้ชื่อว่าวีรษา (VEERASA) โดยนำมาจากชื่อคุณปู่และคุณย่ารวมกัน คือ วีระ + อุษา ซึ่งมองว่าเป็นชื่อที่สามารถจดจำได้ง่าย ชาวต่างชาติเองก็สามารถอ่านออกเสียงได้ไม่ยาก
โดยนอกจากจะเป็นวัสดุธรรมชาติที่ปลอดภัย สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติแล้ว บรรจุภัณฑ์จากกาบหมากยังมีคุณสมบัติการใช้งานที่ดีด้วย ได้แก่ มีน้ำหนักเบา ไม่แตกหักง่าย สามารถใช่อุ่นอาหารในเตาไมโครเวฟได้ บรรจุของเหลวได้ ไม่อ่อนตัว ทนอุณหภูมิได้ - 18 ถึง 200 องศา รวมถึงยังมีกลิ่นหอมและลวดลายสวยงามเป็นเอกลักษณ์ โดยจานกาบหมากสามารถย่อยสลายได้ในเวลาเพียง 45 วันเท่านั้น ราคาจำหน่ายปัจจุบันอยู่ที่ใบละ 5 - 9 บาท ซึ่งนอกจากช่วยรักษ์สิ่งแวดล้อม ยังมีดีไซน์ สร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้าดูน่าสนใจมากขึ้นด้วย
ซึ่งกาบหมากในแต่ละท้องถิ่นนั้น ก็มีคุณสมบัติเหมาะที่จะทำรูปทรงภาชนะที่แตกต่างกัน ได้แก่ หากเป็นกาบทางภาคอีสานจะมีขนาดเล็ก เนื้อขาว เหมาะที่จะทำภาชนะขนาดเล็ก รูปทรงบางๆ ทรงสี เช่น ถ้วยใส่ขนมอบ กาบหมากภาคกลางจะมีขนาดใหญ่ขึ้นมาหน่อย แต่สำหรับภาคใต้จะมีขนาดใหญ่และหนาแข็ง ลายน้ำตาลเข้ม เหมาะที่จะทำจานขนาดใหญ่ หรือรูปทรงที่ต้องเน้นความแข็งแรง เช่นจานทรงแปดเหลี่ยม โดยกาบหมาก 1 ใบ สามารถทำจานได้ 1-3 ใบ โดยรูปแบบที่กำลังเป็นที่นิยมและขายดี ได้แก่ จานขนาดเล็ก เพื่อใส่ขนมอบหรือขนมในการจัดงานอีเวนต์ต่างๆ
นวรัตน์กล่าวว่านอกจากเป็นผลิตภัณฑ์ที่ประดิษฐ์ขึ้นมาเพื่อสิ่งแวดล้อมแล้ว หัวใจสำคัญอีกอย่างในการทำงานของแบรนด์วีรษา คือ การกระจายรายได้สู่ชุมชน โดยปัจจุบันนี้ทางแบรนด์เองได้มีการส่งเสริมการปลูกหมากในพื้นที่ต่างๆ ทั้งในจังหวัดนครราชสีมาเอง รวมไปถึงภาคต่างๆ เพิ่มขึ้นมากด้วย ซึ่งนอกจากจะเป็นการสร้างงาน สร้างรายได้ที่ยั่งยืน โดยในพื้นที่ 1 ไร่ สามารถปลูกต้นหมากได้ประมาณ 1,000 ต้น ยังเป็นการพลิกฟื้นพื้นที่สีเขียวให้กลับชุมชนต่างๆ เพิ่มขึ้นมาด้วย
เรียกได้ว่าเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่กำลังมาแรงจริงๆ ทั้งแนวโน้มความต้องการของตลาด และการช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมของโลก
Facebook : จานกาบหมาก veerasa
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี