กว่า 18 ปีมาแล้วที่ “บ้านละคร” ได้เปิดรับกองถ่ายทำให้เข้ามาใช้พื้นที่เป็นโลเคชั่นสวยๆ ถ่ายทอดเรื่องราวลงสู่จอแก้วให้ผู้ชมได้ดูกัน โดยเรื่องแรกที่บ้านละครแห่งนี้ได้ใช้ถ่ายทำคือ “สะใภ้ไร้ศักดินา” ด้วยความบังเอิญของทางผู้จัดที่ได้ขับรถมาเจอบ้านหลังนี้ หลังจากที่ละครเรื่องแรกออกอากาศ บ้านหลังนี้ก็กลายเป็นบ้านละคร ที่กองถ่ายมักจะวนเวียนกันมาใช้ถ่ายทำละครไปจนถึงถ่ายโฆษณาและมิวสิควีดีโอต่างๆ โดย สิทธิศักดิ์ เหมือนประยูร ผู้ที่เข้ามารับช่วงต่อดูแลบ้านละครแห่งนี้แทนน้องชาย ได้เล่าถึงเหตุผลที่กองละครเลือกใช้บ้านหลังนี้อย่างอุ่นหนาฝาคั่ง เป็นเพราะความคลาสสิกของบ้านทรงดั้งเดิมที่หาได้ยากในกรุงเทพฯ
“ตัวบ้านนี้ผมอยู่มาประมาณ 35 ปีแล้ว ซื้อต่อมาอีกที เดิมทีเป็นบ้านเก่าของตำรวจ ทำให้ตัวบ้านจะมีความเป็นบ้านของข้าราชการ ดูย้อนยุค ตัวบ้านเองก็ไม่ได้ทำอะไรเพิ่มเติม คงไว้แบบนี้เลย มีเพียงแค่ทาสีใหม่เท่านั้น ทำให้ผู้จัด กองละคร ผู้กำกับเห็นบ้านมันมีความคลาสสิก ดูดั้งเดิมไม่เปลี่ยนแปลง แถมยังมีความร่มรื่น มีศาลาเล็กๆ อันนี้เป็นบ้านที่แจ้งวัฒนะ ซึ่งปัจจุบันเราก็ยังอยู่ และมีอีกหลังหนึ่งคือแถวติวานนท์ ไม่ไกลกันมาก หลังนั้นเป็นบ้านไม้ทั้งหลังเลย มีความเป็นบ้านทรงไทย จากตัวบ้านเดินมานิดหน่อยจะมีศาลาไม้ไว้นั่งเล่น หลังนี้ถ่ายทำกองละครของ Club Friday ที่เก้า จิรายุเป็นพระเอก ทำให้เหมือนเป็นบ้านที่อยู่ทางภาคเหนือ กองละครก็ประหยัดค่าใช้จ่ายเพราะไม่ต้องเดินทางไปภาคเหนือจริงๆ”
เพียงแค่คุณมีบ้านสวยๆ โลเคชั่นดีๆ ก็สามารถปรับบ้านให้กลายเป็นอีกหนึ่งธุรกิจทำเงินได้อย่างเช่นบ้านละครแห่งนี้ อีกทั้งในยุคนี้ยังเป็นยุคที่การทำคอนเทนต์เป็นเรื่องใหญ่ การผลิตวีดีโอก็กำลังมาแรง นี่คือโอกาสที่ดีในการทำเงินได้อีกหนึ่งช่องทางเลยล่ะ
ดึงจุดเด่นของบ้านออกมา
อย่างบ้านละครเองเป็นบ้านที่มีความโดดเด่นในเรื่องของตัวบ้าน ที่มีความดั้งเดิม เหมือนบ้านในสมัยก่อน ซึ่งกองละครที่เข้ามาใช้ถ่ายทำเล็งเห็นว่าบ้านหลังนี้เป็นบ้านที่ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมาก อย่างบ้านที่ข้างนอกดูสวยคลาสสิกแต่ข้างในกลับตกแต่งให้ดูโมเดิร์นก็จะมีความขัดกัน หากว่าคุณต้องการเปลี่ยนบ้านให้กลายเป็นธุรกิจจะต้องมองหาจุดเด่นของตัวเองและคงเอาไว้ ไม่ได้หมายความว่าจะต้องเป็นบ้านทรงย้อนยุคอย่างเดียว หากว่าบ้านคุณโดดเด่นในการตกแต่งแบบไหนก็มองหากลุ่มเป้าหมายหรือผู้จัดละครที่ตรงกันกับบ้านของคุณ
เรื่องสีมีอิทธิพลกว่าที่คิด
ก่อนหน้านี้สิทธิศักดิ์ได้เล่าว่าเขาได้เปลี่ยนสีบ้านจนกลายเป็นสีเหลือง ภายในบ้านเปลี่ยนเป็นสีม่วง ทำให้กองละครเริ่มหดหาย ไม่ติดต่อมาถ่ายละครอย่างเดิม จนในที่สุดสิทธิศักดิ์ก็ได้สอบถามไปยังผู้กำกับที่เคยมาใช้บ้านเขาเป็นโลเคชั่นในการถ่ายทำละครว่าทำไมถึงไม่มาถ่ายทำอย่างเดิม จนได้รู้ว่าสีบ้านที่เขาเปลี่ยนใหม่นั้นไม่สวยและไม่เข้ากับตัวบ้าน พอเปลี่ยนสีแล้วทำให้ไม่สามารถใช้เป็นโลเคชั่นได้ สิทธิศักดิ์จึงรีบเปลี่ยนสีกลายเป็นสีครีม ขาวอ่อนๆ สีเทาอ่อนๆ เพื่อให้ดูเข้ากับลักษณะของบ้านที่เป็นทรงโบราณ ดังนั้นหากว่าคุณต้องการที่จะปรับเปลี่ยนบ้านของตัวเองให้กลายเป็นโลเคชั่นต้องศึกษาว่ารูปทรงของบ้านแบบนี้ ดีไซน์แบบนี้ ควรใช้สีไหน เพราะเรื่องของสี มีอิทธิพลมากกว่าที่คุณคิด
เฟอร์นิเจอร์ต้องใช่
อีกหนึ่งเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กันกับเรื่องของสีเลยคือเฟอร์นิเจอร์ การเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ให้เข้ากับตัวบ้านก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่จะช่วยให้กองถ่ายทำละครตัดสินใจเลือกใช้บ้านของคุณได้รวดเร็วยิ่งขึ้น เพราะก่อนที่จะมีการตกลงปลงใจ เลือกใช้บ้านคุณเป็นโลเคชั่น จะต้องมีการมาดูสถานที่ก่อน หากว่าภายในบ้านของคุณมีเฟอร์นิเจอร์ที่ดูเข้ากับตัวบ้าน สามารถใช้เป็นพร็อพในการถ่ายทำได้ก็จะช่วยให้ทางกองถ่ายตัดสินใจได้ง่ายยิ่งขึ้น ลองจัดวางให้สวยๆ อย่างบ้านของสิทธิศักดิ์เองจะเน้นการใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้ เก้าอี้หวายและหลีกเลี่ยงเฟอร์นิเจอร์ที่ไม่เข้ากับตัวบ้าน เช่น เหล็ก เพื่อให้บ้านหลังนี้มีกลิ่นอายของความโบราณแบบครบสูตร ตั้งแต่นอกบ้านจนถึงในบ้าน
คอยอำนวยความสะดวก
ในฐานะที่เป็นเจ้าบ้าน ขาดไม่ได้เลยคือการอำนวยความสะดวกให้แก่กองละคร โดยสิทธิศักดิ์เล่าว่าในช่วงแรกๆ ก็อาจจะยังไม่ชินที่มีคนมาอยู่ในบ้าน แต่หลังจากนั้นก็เริ่มปรับตัวและคอยมองว่าวิธีที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้การถ่ายละครเป็นไปได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้เวลาที่จะมีคนมาใช้สถานที่ก็จะต้องตกลงกันก่อนว่าจะใช้ทั้งหมดกี่ห้อง ห้องไหนบ้าง จากนั้นก็นำข้าวของที่ไม่ได้ใช้ไปไว้ในห้องที่ไม่ได้ถ่ายทำและคนในบ้านก็จะอยู่ในห้องนั้น หรืออาจจะเดินดูเพื่อสำรวจว่ามีอะไรขาดตกบกพร่องไปบ้าง
ผูกมิตรกับเพื่อนบ้าน
เรื่องสุดท้ายซึ่งเป็นเรื่องที่สิทธิศักดิ์หนักใจและเป็นกังวลที่สุดคือการรบกวนเพื่อบ้านในเวลาค่ำคืน เวลาที่กองละครเลิกดึก ทำให้สิทธิศักดิ์จะต้องทำการควบคุมเวลาเพื่อไม่ให้ดึกจนเกินไป อีกทั้งยังต้องควบคุมการใช้เสียงของกองละครเพื่อไม่ให้รบกวนเพื่อนบ้าน สิ่งสำคัญคือการผูกมิตรกับเพื่อนบ้านไว้เสมอ คอบกำชับและดูแลกองละครไม่ให้เกิดปัญหา เช่น เรื่องที่จอดรถ สายไฟต่างๆ ที่จะพาดไปโดนบ้านข้างๆ หากว่าคุณอยากนำตัวเองมาอยู่ในธุรกิจนี้ อย่าลืมสำรวจรอบบ้านให้ดีว่าที่จอดรถพร้อมไหม เพื่อนบ้านเป็นมิตรหรือเปล่า
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี
