ใครๆ ต่างก็รู้ว่าผลไม้เมืองไทยเป็นพระเอกที่คอยเชิดหน้าชูตา ไม่ว่าจะเป็นทุเรียน มะม่วงอกร่องทองและอีกนานาชนิดที่ชาวต่างชาติมาเมื่อไหร่ก็ต้องสรรหามาลิ้มลอง แต่ด้วยผลไม้ไม่สามารถเก็บได้นาน ขายไปขายมาก็มักจะเกิดปัญหาโดนตัดราคากันได้ง่ายๆ ดังนั้นการแปรรูปผลไม้จึงเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่จะช่วยเพิ่มมูลค่าหากว่าคุณต้องการให้ผลไม้ของคุณมีความแตกต่างจากผลไม้ทั่วไปในท้องตลาด
อย่างแบรนด์สวัสดี อีกหนึ่งแบรนด์ที่มีการนำเนื้อผลไม้สดมาแปรรูป ใส่แพ็คเกจจิ้งให้ดูมีความเป็นไทย วางขายตามแหล่งท่องเที่ยวก็สามารถเพิ่มมูลค่าให้ผลไม้หนึ่งชิ้นได้อีกหลายบาทเลยทีเดียว โดย กันตินันท์ โพธิ์ทอง Marketing ของแบรนด์สวัสดีได้พูดถึงสินค้าของตัวแบรนด์ว่าเป็นผลไม้ที่ถูกนำมาแช่แข็งด้วยอุณหภูมิ -45 องศา เพื่อคงสภาพเดิมของผลไม้ไว้จนกลายเป็น FrozenFruit ที่มีรสชาติอร่อย สารอาหารครบครัน อีกทั้งยังเก็บได้นานกว่าผลไม้ทั่วไปถึง 2 ปีเลยทีเดียว
จนตอนนี้ Frozen Fruit ก็มีรูปร่างหน้าตาเหมือนไอศกรีมผไม้แต่เนื้อในเป็นผลไม้แท้ๆ ไม่ได้เจือปนอะไรทั้งสิ้น ทำให้ถูกอกทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยเฉพาะทุเรียนที่คงความหอมหวานเอาไว้ไม่เปลี่ยน นอกจากนี้ยังมีมะม่วง ลิ้นจี่ ลำไยและสับปะรด เพื่อให้ผลไม้สีการสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันได้ครบตามฤดูกาล
นี่ก็เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของการนำผลไม้สดมาแปรรูปให้กลายเป็นสินค้าที่น่าซื้อ น่ารับประทานอีกทั้งยังช่วยเพิ่มมูลค่า ช่วยยืดระยะเวลาในการเก็บรักษาหากว่าคุณขายผลไม้สดไม่หมด การใช้ไอเดีย ใส่นวัตกรรมก็จะช่วยคุณได้อีกทางหนึ่ง
1. ผลไม้อบแห้ง
การนำผลไม้มาอบแห้งเป็นอีกหนึ่งวิธีแปรรูปง่ายๆ ที่เห็นกันตามท้องตลาดทั่วไป โดยส่วนใหญ่อาจจะเรียกว่าเป็นการ Freeze Dried เพื่อทำให้ผลไม้มีความกรอบ อร่อย เป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้แก่ลูกค้าที่อยากทานผลไม้เป็นขนมกินเล่น โดยการ Freeze Dried ก็สามารถดัดแปลงผลไม้ได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นทุเรียน ขนุน ส้ม ไปจนถึงกีวี่ สตรอเบอร์รี่ หากว่าใครยังนึกไม่ออกว่าจะแปรรูปผลไม้เป็นอะไร การอบแห้งก็อาจจะเป็นการเริ่มต้นง่ายๆ สำหรับคุณ
2. ชาผลไม้
เดี๋ยวนี้หลายคนเริ่มฮิตการดื่มชาเป็นกิจวัตร หากว่าคุณมีผลไม้อยู่ในมือและอยากจะเพิ่มมูลค่าลองนำไปสร้างสรรค์เป็นชาผลไม้ที่มีกลิ่มหอมเฉพาะตัว ซึ่งคุณอาจจะต้องเลือก Brended กับสมุนไพรไทยเพื่อให้เกิดเป็นรสชาติที่เป็นของแบรนด์คุณโดยเฉพาะ เช่น ชาส้มผสมกับมิ้นท์
3. สกินแคร์ผลไม้
ในยุคที่ความงามเฟื่องฟูแบบนี้ วัตถุดิบในประเทศก็มีหลายอย่างที่จะช่วยให้ผิวพรรณของสาวๆ ดูดี เช่น แอปเปิ้ลจะมีทั้งคอลลาเจนและอิลาสติน ซึ่งมีคุณสมบัติสวยให้ผิวสวย เรียบเนียน ขาวใสอย่างเป็นธรรมชาติ หรือจะเป็นกล้วยหอมก็จะช่วยให้ความชุ่นชื้น อะโวคาโดมีวิตามินซีสูง เต็มไปด้วยกรดโอเมก้า 3 ดังนั้นหากว่าคิดไม่ออกว่าจะแปรรูปผลไม้อะไร การนำผลไม้มาสร้างสรรค์เป็นสกินแคร์ผลไม้ออแกนิกส์ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว
4. แยมผลไม้
การนำผลไม้มาแปรรูปเป็นแยมก็เป็นองค์ความรู้เดิมที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย ดังนั้นหากว่าคุณอยากจะทำให้มีความแตกต่างอาจจะต้องทำรสชาติใหม่ๆ เช่น ทุเรียน ขนุน หรือใส่เนื้อผลไม้ลงไป จนถึงการออกแบบแพ็คเกจจิ้งให้ดูดีมีความแตกต่าง ไม่ว่าจะเป็นการทำเลียนแบบรูปทรงผลไม้หรือจะขายความ Luxury สิ่งเหลานี้จะช่วยทำให้แบรนด์ของคุณดูไม่เหมือนใคร
5. น้ำผลไม้
แน่นอนว่าน้ำผลไม้ก็เป็นสิ่งที่หลายคนกำลังทำอยู่ การที่จะทำให้น้ำผลไม้ของคุณมีความแปลกใหม่คุณอาจจะต้องมีการใส่ความคิดสร้างสรรค์ลงไป ยกตัวอย่างแบรนด์ Castown ที่นำเปลือกกาแฟเหลือทิ้งในเชียงใหม่มำให้กลายเป็น Craft Soda ที่กำลังขายดีอยู่ในตอนนี้ นั่นเป็นเพราะเขาใช้เรื่องราวของแหล่งที่มาวัตถุดิบมาเล่าเรื่อง สร้างจุดขายให้แบรนด์ หากว่าคุณต้องการทำให้สินค้าแตกต่าง การเล่าเรื่องก็เป็นสิ่งสำคัญ
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี
RECCOMMEND: ENTREPRENEUR
ปัญหาหนึ่งของงานคราฟต์ไทย ที่ทำให้ไม่ได้รับความนิยมมากเท่าที่ควร แม้จะเป็นงานทรงคุณค่า ก็คือ ไม่สามารถนำมาประยุกต์ใช้จริงอยู่ในชีวิตประจำวันได้ แต่อาจไม่ใช่กับ tISI (ธิซายด์) แบรนด์แฟชั่นไทยน้องใหม่ที่มองว่าไม่จำเป็นต้องอนุรักษ์ หากสิ่งนั้นเป็นที่ต้องการอยู่แล้ว
เพราะความฝันที่จะสานต่อโรงแรมเก่าแก่ "แสงทอง" ที่บรรพบุรุษสร้างขึ้น กรรณิการ์ หนูห่วง ทายาทรุ่นที่ 3 จึงตัดสินใจกลับ จ.นครพนม เพื่อหวังฟื้นฟูโรงแรมที่มีสถาปัตยกรรมโบราณให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ท่ามกลางความไม่เห็นด้วยของครอบครัว และโจทย์หินมากมาย
เพราะคำว่า “ไม่จำเป็น” ≠ “ไม่มีประโยชน์” ชิ้นงานแสนฮาของ Matty Benedetto “อัจฉริยะผู้ชั่วร้าย” จึงเป็นตัวอย่างชั้นดีให้กับผู้ประกอบการที่ตกอยู่ในอาการไอเดียตัน คิดอยากทำผลิตภัณฑ์ใหม่หรือพัฒนาผลิตภัณฑ์เดิมได้ลองมาเรียนรู้กัน