ในยุคที่ผู้คนต่างหันมาดูแลสุขภาพกันมากขึ้น หนึ่งในเมนูที่รับประทานกันเป็นประจำ ก็คือ สลัดผัก ซึ่งมีให้เลือกหลากหลายรสชาติ หนึ่งในรสยอดนิยมที่ชื่นชอบกัน คือ น้ำสลัดญี่ปุ่น แต่ส่วนใหญ่ที่มีขายอยู่ตามท้องตลาดมักเป็นแบรนด์นำเข้าหรือจากผู้ผลิตรายใหญ่เลย น้ำสลัดที่เป็นสไตล์โฮมเมด ทำกินเองในบ้าน ยังมีให้เห็นไม่มากเท่าไหร่นัก ด้วยช่องว่างดังกล่าวจึงทำให้ พลอย - บุศรินทร์ ปิยะเจริญวัฒนา สาวน้อยเจ้าของกิจการร้านอาหารญี่ปุ่นแห่งหนึ่งย่านสีลมและหุ้นส่วน คิดอยากแตกไลน์ธุรกิจขึ้นมา โดยทำเป็นน้ำสลัดญี่ปุ่นโฮมเมด 3 สไตล์ 3 รสชาติ ออกมาให้ได้ลิ้มลองกัน ภายใต้ชื่อแบรนด์ว่า Komori ซึ่งมาจากชื่อเมืองในภาพยนตร์ที่เธอชื่นชอบนั่นเอง
“ก่อนหน้านี้เราทำธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นอยู่แล้ว อยู่มาวันหนึ่งจึงคิดอยากแตกไลน์ธุรกิจเพิ่ม โดยสร้างเป็นผลิตภัณฑ์ขึ้นมาตัวหนึ่ง ด้วยความที่เป็นคนชื่นชอบในวัฒนธรรมของญี่ปุ่นอยู่แล้ว ประกอบกับได้ไปดูหนังเรื่องหนึ่งชื่อว่า little forest ในเรื่องนางเอกเป็นคนชอบทำอาหารมาก มักจะทำอาหารกินเองที่บ้าน มีความเป็นออร์แกนิกส์ และดีต่อสุขภาพ เราเลยได้ไอเดียว่าอยากทำผลิตภัณฑ์ที่มีกลิ่นอายความเป็นโฮมเมดแบบนี้บ้าง ซึ่งบังเอิญว่าที่ร้านทำสลัดและปรุงน้ำสลัดญี่ปุ่นขายเองด้วย ค่อนข้างได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า เลยได้ไอเดียว่าอยากทำน้ำสลัดญี่ปุ่นขาย โดยในหนังนางเอกอาศัยอยู่ในเมืองที่ชื่อว่า Komori (โคโมริ) เราจึงนำชื่อนี้มาตั้งเป็นชื่อแบรนด์”
น้ำสลัดของ Komori นั้นมีให้เลือก 3 รสชาติด้วยกัน ได้แก่ 1.รสโชยุ ต้นตำรับน้ำสลัดญี่ปุ่น 2.รสงาญี่ปุ่น มีส่วนผสมของมายองเนส รสชาติเข้มข้น หอมงาคั่ว 3. รสส้มยูสึ อีกหนึ่งรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์แบบญี่ปุ่น ให้รสชาติค่อนข้างเปรี้ยว เวลากินแล้วรู้สึกสดชื่น ปัจจุบันนี้ขายอยู่ที่ราคาขวดละ 150 -190 บาท นอกจากจะมีรสชาติเข้มข้นแบบญี่ปุ่นแท้แล้ว Komori Komori ยังเป็นน้ำสลัดที่ถูกปรุงขึ้นมาเพื่อสุขภาพด้วย
“เราเห็นว่าในช่วง 1 – 2 ปีที่ผ่านมานี้ ตลาดสินค้าสุขภาพในเมืองไทยเติบโตค่อนข้างมาก ซึ่งในส่วนผสมเครื่องปรุงต่างๆ ของญี่ปุ่นก็เป็นวัตถุดิบเป็นเพื่อสุขภาพอยู่แล้ว จึงคิดว่าน่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคนี้ได้ดี เราเองก็มีประสบการณ์ในการคัดเลือกวัตถุดิบมาใช้อยู่แล้ว จึงคิดทำเป็นสูตรพิเศษ Low sugar และ Low calories ด้วย สำหรับคนที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก โดยไม่ใช้สารเคมีปรุงแต่ง และวัตถุกันเสียใดๆ ผู้บริโภคที่รับประทานเข้าไป จึงสามารถมั่นใจในความปลอดภัยได้”
นอกจากเป็นน้ำสลัดเพื่อสุขภาพ ใช้วัตถุดิบอย่างดีจากญี่ปุ่นแล้ว จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งของน้ำสลัด Komori คือ แพ็กเกจจิ้งที่สวยงาม และมีคอนเซปต์ที่ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพ การนำเสนอเนื้อหา ให้ความรู้สึกอบอุ่น และอารมณ์โฮมเมดแบบญี่ปุ่น
“ชื่อ Komori แปลว่า ป่าเล็กๆ เหมือนกับชื่อหนัง เพราะฉะนั้นเราจึงอยากทำแบรนด์ให้มีกลิ่นอายของบ้านหลังเล็กที่อยู่กลางป่า เป็นแม่บ้านญี่ปุ่นที่มีแปลงผักอยู่หน้าบ้าน ทำอาหารทานเอง มีสุขภาพที่ดี โลโก้ของเราก็จะล้อกับในเรื่อง เวลาทำคอนเทนต์เราก็จะอยู่ในคอนเซปต์ที่วางไว้ ซึ่งพลอยมองว่าความยากของการทำแบรนด์ คือ เราต้องหาจุดยืนของแบรนด์ให้ได้ก่อนว่าเราจะเป็นสไตล์ไหน และแตกต่างจากแบรนด์อื่นได้ยังไงบ้าง ที่สำคัญพอเราสร้างภาพลักษณ์ และสื่อสารออกไปยังลูกค้าแล้ว เราต้องมีการเก็บข้อมูล สอบถามความรู้สึกของลูกค้ากลับไปด้วยว่า เขารู้สึกกับแบรนด์ยังไง มีอะไรที่เราควบปรับปรุงแก้ไขบ้าง”
ปัจจุบันนี้น้ำสลัดญี่ปุ่น Komori มีจำหน่ายแล้วกว่า 20 แห่งในร้านค้าเพื่อสุขภาพทั่วกรุงเทพฯ ปริมณฑล ล่าสุดยังได้เข้าไปขายในวิลล่ามาร์เก็ตตามสาขาต่างๆ ด้วย รวมถึงจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ Facebook : komorishop ด้วย ซึ่งนอกจากน้ำสลัดญี่ปุ่นแล้ว ล่าสุดยังได้ทำ Almond Matcha Spread หรือแยมชาเขียวมัทฉะสไตล์ญี่ปุ่นออกมาเพิ่มเป็นอีกหนึ่งสินค้าของแบรนด์ด้วย โดยผลตอบรับที่ได้จากลูกค้าตลอดระยะเวลาหนึ่งปีที่ผ่านมานั้น พลอยมองว่าคุ้มเกินคุ้มเลยทีเดียว
“ลูกค้าค่อนข้างให้การตอบรับที่ดีมาก ทั้งจากทางออนไลน์และที่จำหน่ายอยู่ในร้านค้าเพื่อสุขภาพต่างๆ ส่วนใหญ่เคยซื้อแล้ว ก็กลับมาซื้อซ้ำอีก เพราะเขาชอบในรสชาติของเรา ซึ่งลูกค้าค่อนข้างน่ารักมาก เวลาซื้อกลับไปแล้ว เขาก็จะลองเอาไปประยุกต์ทำเป็นเมนูต่างๆ และรีวิวกลับมาให้เราเยอะมาก บางคนเอาไปทำแซนวิช เอาไปกินกับไข่ต้ม ใส่ข้าวผัด ทำข้าวยำ ฯลฯ กลายเป็นคอมมูนิตี้แห่งหนึ่งขึ้นมา ซึ่งตรงกับความตั้งใจที่เราวางไว้ คือ อยากให้ทุกคนได้ลองทำอาหารกินเองที่บ้าน ดีใจคะ ที่สามารถตอบโจทย์สาวๆ สาย healthy ได้”พลอยกล่าว
Facebook : komorishop / Line : @komorishop
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี