​5 กลยุทธ์สไตล์ “เจ้เล้ง” ปั้นยอดขายให้ปังจากยุค 1.0-4.0




     ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย เดินหน้าพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการเอสเอ็มอี จัดงาน "SMEs Coaching" ปั้นยอดขายให้สุดปังจากยุค 1.0-4.0 by เจ้เล้งนำประสบการณ์กว่า 5 ทศวรรษ ที่ใช้ในการทำธุรกิจจนประสบความสำเร็จกลั่นหลักการตลาดกลยุทธ์การขายแนะ “เอสเอ็มอี” ประยุกต์ใช้ 5 กลยุทธ์นำธุรกิจสู่ความมั่งคั่ง ยั่งยืน 
 

     นายมงคล ลีลาธรรม กรรมการผู้จัดการธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME Development Bank)  กล่าวเปิดเสวนา "SMEs Coaching" ปั้นยอดขายให้สุดปังจากยุค 1.0-4.0 by เจ้เล้ง ซึ่งจัดขึ้นภายในงาน “ สุดยอด SMEs ส่งสุข ส่งท้าย ส่งความประทับใจ ตลาดคลองผดุง 2560 ”ที่ ตลาดคลองผดุงกรุงเกษม ว่าภายใต้นโยบาย ภารกิจ และความมุ่งมั่นของธนาคารในการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทย ให้ก้าวไกล  ทุกส่วนงานของธนาคาร ได้มีการทำงานเชิงรุกโดยได้ร่วมกับผู้ประกอบการธุรกิจที่ประสบความสำเร็จจากการลงมือทำจริงได้รับการยอมรับในระดับชาติ และระดับนานาชาติ ทำโครงการ "SMEs Coaching"  เพื่อให้ผู้ประกอบการมาถ่ายทอดประสบการณ์ และเป็นโค้ช (Coach) ให้หลักคิด ถายทอดกลยุทธ์ธุรกิจเชิงรุก และเทคนิคการปรับตัวรับการแข่งขัน ท่ามกลางสภาพแวดล้อมการดำเนินธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิงโดยหนึ่งในผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จและได้รับการยอมรับที่ยินดีมาถ่ายทอดประสบการณ์ บทเรียน ความสำเร็จในการการดำเนินธุรกิจตลอด 5 ทศวรรษ ให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี คือ  คุณอารยา ลาภชีวะสิทธิฉัตรหรือ “เจ้เล้ง”กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ แอนด์ เจ บิวตี้โปรดักส์ จำกัด เจ้าของเจ้เล้ง พลาซ่า ดอนเมือง


    ด้านนาง อารยา ลาภชีวะสิทธิฉัตร  (เจ้เล้ง) กล่าวในเวทีเสวนา "SMEs Coaching" ปั้นยอดขายให้สุดปังจากยุค 1.0-4.0 by เจ้เล้ง ซึ่งจัดขึ้นภายในงาน “ สุดยอด SMEs ส่งสุข ส่งท้าย ส่งความประทับใจ ตลาดคลองผดุง 2560 ”ณ ตลาดคลองผดุงกรุงเกษม ซึ่งจัดโดยธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME Development Bank) เผยให้ฟังว่า ตนเองมีหลักคิดที่เป็นหัวใจความสำเร็จจนสามารถสร้างฐานะและขยายฐานธุรกิเติบโตต่อเนื่องมาตลอดกว่า 50 ปีด้วยความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าในการทำธุรกิจมีการวางเป้าหมายที่ชัดเจนไว้ตั้งแต่ต้นว่าจะต้องสำเร็จและร่ำรวยให้ได้ มองธุรกิจระยะยาวไม่คิดเอาแต่ได้ฝ่ายเดียว

 
     “เจ้ เริ่มค้าขายด้วยเงินทุนเพียง1,200 บาท แต่ตอนนี้เจ้ มีฐานะมั่นคง ไม่มีหนี้สิน ก็อยากจะบอก เอสเอ็มอี ว่าในการทำธุรกิจนั้น ไม่ว่ายุคไหนๆเริ่มแรกต้องมีจิตใจที่มุ่งมั่นในการทำธุรกิจ ต้องอดทน และอย่าคิดแต่จะได้อย่างเดียว ช่วงแรกๆต้องสร้างชื่อให้แข็งแรง เอาแบบพออยู่ได้”


     จากประสบการณ์การทำธุรกิจตั้งแต่ยุคดั้งเดิม หรือ เรียกให้ทันสมัยว่า ยุค 1.0  ต้อง เจ้เล้ง ต้องประสบกับการแข่งขันทุกรูปแบบ จึงต้องพลิกกลยุทธ์ให้เข้ากับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป อย่างยุคนี้ การขายผ่านออนไลน์กำลังได้รับความนิยม ร้านเจ้เล้ง ก็มีขายผ่านออนไลน์ เช่นกัน  


     เจ้เล้ง กล่าวอีกว่าจากที่ได้มีโอกาสต่อธุรกิจกับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ตั้งแต่อดีตหลายสิบปีจนกระทั่งปัจจุบัน พบว่าปัญหาของเอสเอ็มอีคือ ความไม่เสถียร ความไม่คงเส้นคงวาในการทำธุรกิจ พอสินค้าติดตลาด มีคนซื้อมากๆก็มักจะขึ้นราคาแบบไม่มีเหตุผลหรือลดปริมาณลงแต่ขายในราคาเท่าเดิม แบบนี้ไม่ดีแน่นอน


     ท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรงในการตลาดยุค 4.0 เจ้เล้งเปิดเผยถึงกลยุทธ์สำคัญที่ใช้ในการทำธุรกิจอันดับแรกคือ1.Product : สินค้าต้องมีความเที่ยงตรง คงเส้นคงวา มีความน่าเชื่อถือ สร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า2.Peopleต้องใส่ใจใกล้ชิดลูกค้า ส่งมอบของดีมีคุณภาพให้ลูกค้า เจ้าของกิจการจะต้องใส่ใจในรายละเอียด ลงไปดูมาตรฐานคุณภาพสินค้าทุกขั้นตอน ก่อนจะที่สินค้าจะถึงมือลูกค้า “ก่อนจะนำผลิตภัณฑ์หรือสินค้าใดๆ มาขายในร้าน เจ้จะต้องทดสอบด้วยตัวเองก่อนเพื่อให้มั่นใจได้ว่าสินค้านั้นๆมีคุณภาพดี 3.Priceในช่วงภาวะเศรษฐกิจไม่ค่อยดี กำลังซื้อตกต่ำ ต้องใช้กลยุทธ์ราคา ปรับกลยุทธ์นำสินค้าคุณภาพดี แต่ราคาไม่แพงเข้ามาขาย4.Place มีการปรับเปลี่ยนวิธีการขาย ช่องทางการจัดจำหน่ายให้ทันกับยุคสมัยที่เปลี่ยนไป เพื่อตอบสนองความพึงพอใจลูกค้าทุกกลุ่ม อย่างช่วงนี้ต้องเพิ่มช่องทางการขายผ่านออนไลน์5.Consumer Insight ศึกษาพฤติกรรมของลูกค้าในแต่ละกลุ่มให้ถ่องแท้และหาวิธีสื่อสาร บอกเล่าคุณภาพสินค้าจริงๆ สร้างความน่าเชื่อถือ อย่างที่ ร้านเจ้เล้ง ตัวเจ้เป็นเจ้าของพูดเอง โดยขายสินค้าที่มีคุณภาพจริงๆ และบอกความจริงกับลูกค้า เพราะ ความน่าเชื่อถือเป็นเรื่องสำคัญที่จะนำไปสู่ความสำเร็จของการทำธุรกิจ


RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

tISI แบรนด์แฟชั่นย้อมสีธรรมชาติ ส่วนผสมลงตัวงานคราฟต์ไทยกับดีไซน์ร่วมสมัย ที่ฝันว่าวันหนึ่งจะไปตั้งขายอยู่กลางกรุงปารีส

ปัญหาหนึ่งของงานคราฟต์ไทย ที่ทำให้ไม่ได้รับความนิยมมากเท่าที่ควร แม้จะเป็นงานทรงคุณค่า ก็คือ ไม่สามารถนำมาประยุกต์ใช้จริงอยู่ในชีวิตประจำวันได้ แต่อาจไม่ใช่กับ tISI (ธิซายด์) แบรนด์แฟชั่นไทยน้องใหม่ที่มองว่าไม่จำเป็นต้องอนุรักษ์ หากสิ่งนั้นเป็นที่ต้องการอยู่แล้ว

สานต่อตำนาน 70 ปี ทายาทรุ่น 3 ปัดฝุ่น รร.แสงทองเฮอริเทจ สู่แลนด์มาร์คใหม่แห่งนครพนม

เพราะความฝันที่จะสานต่อโรงแรมเก่าแก่ "แสงทอง" ที่บรรพบุรุษสร้างขึ้น กรรณิการ์ หนูห่วง ทายาทรุ่นที่ 3 จึงตัดสินใจกลับ จ.นครพนม เพื่อหวังฟื้นฟูโรงแรมที่มีสถาปัตยกรรมโบราณให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ท่ามกลางความไม่เห็นด้วยของครอบครัว และโจทย์หินมากมาย

วิธีเปลี่ยนไอเดีย “ตัน” เป็น “มันส์” แบบ Matty Benedetto ยอดนักประดิษฐ์จอมกวน  

เพราะคำว่า “ไม่จำเป็น” ≠ “ไม่มีประโยชน์” ชิ้นงานแสนฮาของ Matty Benedetto “อัจฉริยะผู้ชั่วร้าย” จึงเป็นตัวอย่างชั้นดีให้กับผู้ประกอบการที่ตกอยู่ในอาการไอเดียตัน คิดอยากทำผลิตภัณฑ์ใหม่หรือพัฒนาผลิตภัณฑ์เดิมได้ลองมาเรียนรู้กัน