Text : กองบรรณาธิการ
แปลนครีเอชั่นส์ ผู้ผลิตของเล่นไม้สำหรับเด็กจากยางพารารายแรกของโลกที่ได้เปลี่ยนยางพาราหมดอายุ ไม่มีน้ำยางเหลือแล้วมาใส่ความคิดสร้างสรรค์จนกลายเป็นของเล่นไม้จากยางพาราที่เสริมสร้างพัฒนาการเด็กจนโด่งดังไปไกลถึงสหรัฐอเมริกาและอีกหลายประเทศทั่วโลก ภายใต้แบรนด์ PlanToys สิ่งสำคัญที่ทำให้แปลนครีเอชั่นส์ เติบโตมาอย่างต่อเนื่อง 30 กว่าปีก็คือการนำเอาแนวคิดความพอเพียงมาใช้ในการดำเนินธุรกิจไปจนถึงการคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมด้วยการใช้ Green Concept เป็นแนวทางหลักในองค์กร นั่นคือ Green Toy – Green Company เน้นการผลิตของเล่นที่เป็นมิตรต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม
โกสินทร์ วิระพรสวรรค์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แปลนครีเอชั่นส์ จำกัด ได้พูดถึงเรื่องของการผสานความเป็นองค์กรสีเขียวเข้ากับการนำนวัตกรรมเข้ามาใช้ในการสร้างสรรค์สินค้าจนทำให้แปลนครีเอชั่นส์ มีจุดยืนที่ชัดเจน
“องค์กรของเรามีการสร้างวัฒนธรรมด้วยการนำนวัตกรรมมาใช้ในองค์กรให้เกิดสิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ มีการเปิดพื้นที่ให้พนักงานได้โชว์ศักยภาพของตัวเอง คิดค้นอะไรใหม่ๆ อย่างมีช่วงหนึ่งที่เราพบว่าเรามีขี้เลื่อยเหลือทิ้งเยอะมาก เราคิดว่ามันต้องทำให้ออกมาเป็นอะไรสักอย่างได้ ก็จัดทีมขึ้นมาเลย มาคิดกันว่าจะสามารถนำขี้เลื่อยไปทำเป็นอะไรได้บ้าง จากนั้นก็ใส่นวัตกรรมเข้าไปจนกลายเป็นของเล่นที่มีมูลค่าเพิ่มมากขึ้น จากแค่เศษขี้เลื่อยสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มขึ้นด้วยนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ จากขี้เลื่อยกิโลกรัมละ 2 บาท กลายเป็นกิโลกรัมละ 1,000 บาท เรานำเรื่องของ Green Concept มาทำให้กลายเป็นรูปธรรมมากขึ้น”
นอกจากเรื่องของแนวคิดด้านสิ่งแวดล้อมแล้ว แปลนครีเอชั่นส์ยังมีความโดดเด่นในเรื่องของการช่วยเหลือสังคมด้วยการคิดค้นของเล่นเพื่อเด็กที่มีความบกพร่องด้านต่างๆ และแจกของเล่นฟรีผ่าน Distributor
“จุดยืนขององค์กรเราคือความยั่งยืน นอกจากเรื่องของการให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมแล้วเรายังให้ความสำคัญเรื่องของสังคมด้วย เราจะไม่เอากำไรเป็นจุดสูงสุดในการทำธุรกิจแต่เราจะนำกำไรไปสร้างสิ่งดีๆ คืนสู่สังคม เช่น โปรเจ็คที่เราทำครบรอบ 30 ปี เรามีการทำของเล่นให้กับเด็กที่มีความบกพร่องในการมองเห็น เด็กพิการ เด็กออทิสติกโดยเฉพาะ จากนั้นเราก็จะเอาของเล่นแจกเด็กๆ เหล่านี้ผ่านทางร้านที่เป็นคู่ค้าของเราในหลายๆ ประเทศ ให้เขาแจกมูลนิธิ ชุมชนในละแวกนั้น เราก็พบว่ามีพ่อแม่ที่มองหาของเล่นสำหรับลูกๆ ของเขาที่มีความบกพร่องด้านร่างกายเยอะมากและเรายังทำงานร่วมกับ Local Organization จัดเทรนนิ่งให้กับร้านค้าต่างๆ ให้ร้านค้าสามารถแนะนำของเล่นให้เหมาะสมกับเด็กแต่ละกลุ่ม ในการทำธุรกิจ ถ้าเราทำสิ่งดีๆ หรือทำกิจกรรมทางการตลาดที่ดีก็จะส่งผลลัพธ์ที่ดีกลับมาแน่นอน”
แม้ว่าในการสร้างความยั่งยืนขององค์กรจะต้องประกอบไปด้วยการคิดดี ทำดี แต่ก็ยังมีส่วนอื่นที่ทำให้องค์กรของคุณสามารถเติบโตขึ้นได้อย่างเข้มแข็งนั่นคือการสร้างแบรนด์
“ในเรื่องของการทำตลาด เราเน้นการสร้างแบรนด์ เราเป็นเจ้าแรกๆ ของเมืองไทยที่สร้างแบรนด์ ในขณะที่ตอนนั้นธุรกิจในไทยหลายเจ้ายังเน้นการรับผลิต ทำ OEM อยู่ แต่เราคิดว่าการสร้างแบรนด์มีความสำคัญมาก พอเราเริ่มทำธุรกิจ เราก็เริ่มสร้างแบรนด์ไปพร้อมกันเลย สิ่งนี่แหละที่ทำให้เรามีความแตกต่างจากคนอื่น ถ้าใครพูดถึงของเล่นที่มีดีไซน์ ทำมาจากยางพารา เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการเด็ก ผมว่ายังไม่มีใครแข่งกับเราได้ การสร้างแบรนด์คือการสร้างสตอรี่ สร้างเรื่องราวให้ตัวเอง ทำให้เรามีจุดยืน แต่จุดยืนที่ว่านี้ต้องตั้งอยู่บนความเป็นจริง ต้องพูดเฉพาะสิ่งที่ตัวเองทำได้ อย่าพูดอะไรเกินตัว เพราะเดี๋ยวนี้ผู้คนก็มีเทคโนโลยีในมือ ข้อมูลอะไรต่างๆ ก็สามารถเช็คได้”
โกสินทร์ ก็ได้ปิดท้ายเรื่องของการสร้าง Happy Workplace คือองค์กรที่เปี่ยมไปด้วยความสุข ซึ่งเป็นสิ่งที่ช่วยผลักดันให้การทำธุรกิจ เนื่องจาก แปลนครีเอชั่นส์ ทำของเล่นสำหรับเด็ก เมื่อเด็กเล่นก็มีความสุข ดังนั้นพนักงานที่ทำงานก็ต้องมีความสุขด้วยเช่นกัน
“เราจะต้องสร้าง Passion ในการทำงานให้แก่พนักงาน ผลักดันให้พวกเขาทำสิ่งที่ดี ให้ทุกคนตั้งเป้าหมายว่าวันนี้จะต้องทำอะไรให้ดีขึ้น อย่างน้อยหนึ่งอย่าง ค่อยๆ ช่วยกันพัฒนาไปทีละก้าว ก็จะนำพาองค์กรไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนได้”
ที่มา : งานสัมมนาธุรกิจยั่งยืนด้วยหลักเศรษฐกิจพอเพียง
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี
RECCOMMEND: ENTREPRENEUR
ปัญหาหนึ่งของงานคราฟต์ไทย ที่ทำให้ไม่ได้รับความนิยมมากเท่าที่ควร แม้จะเป็นงานทรงคุณค่า ก็คือ ไม่สามารถนำมาประยุกต์ใช้จริงอยู่ในชีวิตประจำวันได้ แต่อาจไม่ใช่กับ tISI (ธิซายด์) แบรนด์แฟชั่นไทยน้องใหม่ที่มองว่าไม่จำเป็นต้องอนุรักษ์ หากสิ่งนั้นเป็นที่ต้องการอยู่แล้ว
เพราะความฝันที่จะสานต่อโรงแรมเก่าแก่ "แสงทอง" ที่บรรพบุรุษสร้างขึ้น กรรณิการ์ หนูห่วง ทายาทรุ่นที่ 3 จึงตัดสินใจกลับ จ.นครพนม เพื่อหวังฟื้นฟูโรงแรมที่มีสถาปัตยกรรมโบราณให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ท่ามกลางความไม่เห็นด้วยของครอบครัว และโจทย์หินมากมาย
เพราะคำว่า “ไม่จำเป็น” ≠ “ไม่มีประโยชน์” ชิ้นงานแสนฮาของ Matty Benedetto “อัจฉริยะผู้ชั่วร้าย” จึงเป็นตัวอย่างชั้นดีให้กับผู้ประกอบการที่ตกอยู่ในอาการไอเดียตัน คิดอยากทำผลิตภัณฑ์ใหม่หรือพัฒนาผลิตภัณฑ์เดิมได้ลองมาเรียนรู้กัน