อ้วยอันโอสถ พลิกโฉมยาสมุนไพรสุดเชย ส่งนวัตกรรมใหม่เจาะตลาดยาเด็ก



 
 
     กว่า 70 ปีที่บริษัท อ้วยอันโอสถ จำกัด อยู่ในตลาดด้านสมุนไพรของประเทศไทย จำหน่ายทั้งยาแผนปัจจุบันและยาแผนโบราณโดยใช้สมุนไพรเป็นส่วนประกอบ ซึ่งก่อตั้งโดย “เสถียร สมบูรณ์เวชชการ” ซึ่งเป็นคนบุกเบิกร้านขายยา 2 คูหา ณ เชิงสะพานพระพุทธยอดฟ้าเมื่อปี พ.ศ.2490 ก่อนถูกรับช่วงต่อโดยทายาทรุ่นต่อมาคือ “สิทธิชัย สมบูรณ์เวชชการ” ทายาทรุ่นที่ 2 จนได้จัดตั้งเป็นบริษัท อ้วยอันโอสถ จำกัด พร้อมทั้งเริ่มจัดตั้งโรงงานและมีการใช้เทคโนโลยีเข้ามาในการผลิต ล่าสุดก็ได้ทายาทรุ่นที่ 3 ซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ไฟแรงอย่าง “ชนรรค์ สมบูรณ์เวชชการ” เข้ามาสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ให้แก่อ้วยอันโอสถ ซึ่งมีทั้ง ยาจากสมุนไพร อาหารเสริมจากสมุนไพร ชาจากสมุนไพร ภายใต้แบรนด์ มังกรทอง, HERBAL ONE, ไก่ดำ, เหรียญแดง, เรือสำเภา และล่าสุดคือแบรนด์ MR.HERB ที่มีความทันสมัย ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในปัจจุบันมากขึ้น รวมทั้งพัฒนาผลิตภัณฑ์สมุนไพรสำหรับเด็กอย่างยาน้ำสมุนไพร MR.HERB และผลิตภัณฑ์ดังกล่าวนี้เองที่ทำให้ อ้วยอันโอสถ คว้ารางวัลโดดเด่นด้านผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ จากการประกวดโครงการ SME Thailand Inno Awards 2017





     ที่มาของผลิตภัณฑ์ยาน้ำสมุนไพรสำหรับเด็ก แบรนด์ MR.HERB ชนรรค์เผยว่าได้รับแรงบันดาลใจจากในสมัยก่อนที่มักจะมีคุณพ่อคุณแม่มาเคาะร้านขายยาตอนดึกเพื่อขอซื้อยาไปให้ลูกที่ป่วย จึงได้ไอเดียในการพัฒนาผลิตภัณฑ์สมุนไพรให้กลายเป็นยาสามัญประจำบ้านสำหรับเด็ก และได้คิดค้นสูตรจากคุณปู่ พร้อมทั้งนำกรรมวิธีการผลิตที่ทันสมัยเข้ามาใช้ จึงเกิดเป็นยาน้ำสมุนไพรสำหรับเด็ก ตรา MR.HERB โดยมีการใช้นวัตกรรมในการเปลี่ยนภาพลักษณ์ของความเป็นสมุนไพรจากที่เคยดูเชย รับประทานยาก มีความขม ให้กลายเป็นสินค้าที่ดูทันสมัย รสชาติ หวาน หอม รับประทานง่ายสำหรับเด็กๆ ทุกคน ที่สำคัญไปกว่านั้นคือสมุนไพรมีความปลอดภัย ปราศจากสารเคมี ต่างจากยาทั่วไปในตลาดและไม่มีแอลกอฮอล์ จึงทำให้เด็กทุกคนสามารถรับประทานได้ง่าย ไม่เกิดอาการแพ้ จนกลายเป็นยาน้ำสมุนไพรสำหรับเด็กที่เป็นยาสามัญประจำบ้านเจ้าแรกของประเทศไทย







     

     การใช้นวัตกรรมในการพัฒนาธุรกิจ SME ในยุคปัจจุบัน ภายใต้มุมมองของทายาทรุ่นที่ 3 ของอ้วยอันโอสถ มองว่า มีความสำคัญเป็นอย่างมาก สะท้อนให้เห็นได้จากบริษัท อ้วยอันโอสถ จำกัดเอง ซึ่งเป็นธุรกิจเกี่ยวกับสมุนไพร หลายคนอาจคิดว่าเป็นสิ่งที่เก่า ดูโบราณ แต่ด้วยความที่อ้วยอันโอสถไม่เคยหยุดนิ่งอยู่กับที่ มีการคิดค้นสิ่งใหม่ๆ ออกมาอยู่เสมอ ทำให้อ้วยอันโอสถยังเป็นผลิตภัณฑ์ในดวงใจสำหรับใครหลายคน ที่สำคัญยังมีการปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยด้วยการแตกไลน์สินค้า สร้างแบรนด์ ด้วยการใช้นวัตกรรม ซึ่งชนรรค์ยังย้ำด้วยว่า การใช้นวัตกรรมไม่จำเป็นต้องลงทุนมากเสมอไป เพียงแค่เปลี่ยนแนวคิด มองหาความแตกต่าง สร้างอะไรใหม่ๆ ให้แก่สินค้า เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า ซึ่งนอกจากจะทำให้ได้ใจจากลูกค้าแล้ว ยังช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าได้อีกด้วย 





www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

tISI แบรนด์แฟชั่นย้อมสีธรรมชาติ ส่วนผสมลงตัวงานคราฟต์ไทยกับดีไซน์ร่วมสมัย ที่ฝันว่าวันหนึ่งจะไปตั้งขายอยู่กลางกรุงปารีส

ปัญหาหนึ่งของงานคราฟต์ไทย ที่ทำให้ไม่ได้รับความนิยมมากเท่าที่ควร แม้จะเป็นงานทรงคุณค่า ก็คือ ไม่สามารถนำมาประยุกต์ใช้จริงอยู่ในชีวิตประจำวันได้ แต่อาจไม่ใช่กับ tISI (ธิซายด์) แบรนด์แฟชั่นไทยน้องใหม่ที่มองว่าไม่จำเป็นต้องอนุรักษ์ หากสิ่งนั้นเป็นที่ต้องการอยู่แล้ว

สานต่อตำนาน 70 ปี ทายาทรุ่น 3 ปัดฝุ่น รร.แสงทองเฮอริเทจ สู่แลนด์มาร์คใหม่แห่งนครพนม

เพราะความฝันที่จะสานต่อโรงแรมเก่าแก่ "แสงทอง" ที่บรรพบุรุษสร้างขึ้น กรรณิการ์ หนูห่วง ทายาทรุ่นที่ 3 จึงตัดสินใจกลับ จ.นครพนม เพื่อหวังฟื้นฟูโรงแรมที่มีสถาปัตยกรรมโบราณให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ท่ามกลางความไม่เห็นด้วยของครอบครัว และโจทย์หินมากมาย

วิธีเปลี่ยนไอเดีย “ตัน” เป็น “มันส์” แบบ Matty Benedetto ยอดนักประดิษฐ์จอมกวน  

เพราะคำว่า “ไม่จำเป็น” ≠ “ไม่มีประโยชน์” ชิ้นงานแสนฮาของ Matty Benedetto “อัจฉริยะผู้ชั่วร้าย” จึงเป็นตัวอย่างชั้นดีให้กับผู้ประกอบการที่ตกอยู่ในอาการไอเดียตัน คิดอยากทำผลิตภัณฑ์ใหม่หรือพัฒนาผลิตภัณฑ์เดิมได้ลองมาเรียนรู้กัน