​ครกธรรมดาๆ ต้องชิดซ้าย หลบให้นวัตกรรมดีไซน์จากครกหินศิลาทิพย์

Text : กองบรรณาธิการ


 

     กลุ่มผลิตภัณฑ์จากหิน ศิลาทิพย์ คือ ผู้ผลิตครกหินดีไซน์เก๋ไก๋ ที่เริ่มต้นมาจากธุรกิจครอบครัวของ ธารา ธาราศักดิ์ ทายาทรุ่นที่ 3 ของผู้ผลิตครกหินในตำบลอ่างศิลา จังหวัดชลบุรี ซึ่งทำมาประมาณ 60-70 ปี ภายหลังย้ายฐานผลิตมาอยู่ที่จังหวัดตากเพื่อแก้ปัญหาด้านวัตถุดิบ ก่อนมารวมกลุ่มชาวบ้านและตั้งเป็นกลุ่มวิสาหกิจชุมชนขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2552 เพื่อเข้าโครงการ OTOP และอยากมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือสังคมโดยสร้างงานสร้างอาชีพให้กับคนในชุมชนด้วย จุดเด่นของครกหิน ศิลาทิพย์ คือ มีรูปทรงที่หลากหลาย ดีไซน์ทันสมัย และคำนึงถึงการใช้งานของผู้บริโภค โดยใช้วัตถุดิบในจังหวัดตาก ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นหินแกรนิตที่แข็งแรงที่สุดในประเทศไทย จึงทำให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างและได้รับการตอบรับจากตลาดอย่างดียิ่ง ด้วยเหตุนี้ ทำให้กลุ่มผลิตภัณฑ์จากหิน ศิลาทิพย์ ได้รับรางวัลโดดเด่นด้านการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ จากการประกวดโครงการ SME Thailand Inno Awards 2017



 

     พัฒนาผลิตภัณฑ์นวัตกรรมครกหินให้มีประโยชน์ตรงตามความต้องการของผู้บริโภค ภายใต้คอนเซปต์ “พัก พิง คว่ำ” โดยออกแบบตัวครกให้มีร่องด้านบนเพื่อใช้วางพักสากป้องกันการกลิ้งตกแตก เมื่อใช้ครกตำน้ำพริกหรือเครื่องแกงเสร็จก็สามารถนำสากมาวางพักด้านข้างครกเพื่อตักของด้านในออกจากครกได้อย่างสะดวก เมื่อล้างทำความสะอาดเสร็จก็สามารถคว่ำครกแล้วล็อกสากป้องกันการตกแตกได้ ทั้งยังช่วยระบายอากาศทำให้ป้องกันกลิ่นอับชื้นและเชื้อราได้อีกด้วย นอกจากนี้ ยังออกแบบให้สามารถขนย้ายได้สะดวกโดยการเจาะทำสายหูหิ้วพกพาไปได้ทุกที่ ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ถึงกว่า 10 รูปทรง และยังนำเศษวัสดุไปพัฒนาสู่ผลิตภัณฑ์อื่นๆ อีกด้วย อย่างเปลือกหน้าครกใช้ทำกระถางต้นไม้ ทำเป็นผนังห้อง ปากครกกับส่วนก้นที่ตัดออกนำไปทำเป็นเชิงเทียน แม้แต่เศษผงหรือวัสดุที่เหลือก็นำมาทำเป็นเครื่องประดับได้อีกด้วย
 




     นวัตกรรมทำให้ครกหินของศิลาทิพย์ มีความโดดเด่นและแตกต่าง ทำให้สินค้าธรรมดาๆ อย่างครก เกิดการใช้สอยตรงตามความต้องการของผู้บริโภคยุคนี้มากขึ้น สามารถขยับฐานลูกค้าจากแค่ซื้อใช้มาสู่กลุ่มที่ซื้อเพื่อสะสม และมีกลุ่มลูกค้าที่เป็นคนรุ่นใหม่มากขึ้นด้วย นวัตกรรมช่วยเพิ่มมูลค่าให้สินค้าโดยสามารถตั้งราคาได้สูงขึ้นกว่าเท่าตัว โดยปัจจุบันวางจำหน่ายในหน้าร้านที่จังหวัดตาก และอ่างศิลา ออกบู๊ธตามงานแสดงสินค้าต่างๆ และจำหน่ายผ่านช่องทางทางเฟซบุ๊กและเว็บไซต์ จากที่เคยขายส่งเป็นหลัก การพัฒนานวัตกรรมทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักและได้รับความสนใจมากขึ้นจนมีลูกค้าขายปลีกและออนไลน์เพิ่มขึ้นด้วย และยังเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้วิสาหกิจชุมชนเล็กๆ อย่างพวกเขาสามารถคว้ารางวัลระดับประเทศ และได้รับการคัดสรรเป็น OTOP 5 ดาว เมื่อปี พ.ศ.2559 มาแล้ว 




www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

tISI แบรนด์แฟชั่นย้อมสีธรรมชาติ ส่วนผสมลงตัวงานคราฟต์ไทยกับดีไซน์ร่วมสมัย ที่ฝันว่าวันหนึ่งจะไปตั้งขายอยู่กลางกรุงปารีส

ปัญหาหนึ่งของงานคราฟต์ไทย ที่ทำให้ไม่ได้รับความนิยมมากเท่าที่ควร แม้จะเป็นงานทรงคุณค่า ก็คือ ไม่สามารถนำมาประยุกต์ใช้จริงอยู่ในชีวิตประจำวันได้ แต่อาจไม่ใช่กับ tISI (ธิซายด์) แบรนด์แฟชั่นไทยน้องใหม่ที่มองว่าไม่จำเป็นต้องอนุรักษ์ หากสิ่งนั้นเป็นที่ต้องการอยู่แล้ว

สานต่อตำนาน 70 ปี ทายาทรุ่น 3 ปัดฝุ่น รร.แสงทองเฮอริเทจ สู่แลนด์มาร์คใหม่แห่งนครพนม

เพราะความฝันที่จะสานต่อโรงแรมเก่าแก่ "แสงทอง" ที่บรรพบุรุษสร้างขึ้น กรรณิการ์ หนูห่วง ทายาทรุ่นที่ 3 จึงตัดสินใจกลับ จ.นครพนม เพื่อหวังฟื้นฟูโรงแรมที่มีสถาปัตยกรรมโบราณให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ท่ามกลางความไม่เห็นด้วยของครอบครัว และโจทย์หินมากมาย

วิธีเปลี่ยนไอเดีย “ตัน” เป็น “มันส์” แบบ Matty Benedetto ยอดนักประดิษฐ์จอมกวน  

เพราะคำว่า “ไม่จำเป็น” ≠ “ไม่มีประโยชน์” ชิ้นงานแสนฮาของ Matty Benedetto “อัจฉริยะผู้ชั่วร้าย” จึงเป็นตัวอย่างชั้นดีให้กับผู้ประกอบการที่ตกอยู่ในอาการไอเดียตัน คิดอยากทำผลิตภัณฑ์ใหม่หรือพัฒนาผลิตภัณฑ์เดิมได้ลองมาเรียนรู้กัน