กสอ. จับมือ กรมวิทยาศาสตร์บริการ เพิ่มศักยภาพ OTOP ด้วยเทคโนโลยีรับอุตสาหกรรม 4.0



 
     กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) จับมือ กรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) พัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมและวิสาหกิจชุมชนด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม แก้ปัญหาผู้ประกอบการไม่สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีและนวัตกรรม นำไปสู่การเสียเปรียบในเชิงการค้า ตลอดจนการยกระดับสินค้าให้ได้มาตรฐาน การพัฒนาผลิตภัณฑ์นวัตกรรม โดยการถ่ายทอดเทคโนโลยีให้แก่ผู้ประกอบการ วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และวิสาหกิจชุมชน เริ่มดำเนินการเดือนตุลาคมปีนี้ คาดว่าจะมีผู้ประกอบการเข้าร่วม 200-300 ราย วางเป้าหมายภายใน 5 ปี จำนวนไม่น้อยกว่า 10,000 ราย 
 
     ดร.สุทธิเวช ต.แสงจันททร์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า วศ.มีนโยบายในการผลักดันและสนับสนุนการใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจากผลงานวิจัยและการทดสอบในห้องปฏิบัติการไปพัฒนากระบวนการผลิตสินค้า โอทอป เพื่อยกระดับสินค้าให้ได้มาตรฐาน โดยการถ่ายทอดเทคโนโลยีให้แก่ผู้ประกอบการ วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และวิสาหกิจชุมชนในด้านผลิตภัณฑ์ โอทอป ทั้ง 5 ประเภท อาหารแปรรูป เซรามิก แก้วและกระจก ผลิตภัณฑ์ยางพารา เยื่อและผลิตภัณฑ์กระดาษ เพื่อพัฒนาให้ผู้ประกอบการสามารถพัฒนาและออกแบบกระบวนการผลิต ปรับปรุงคุณภาพผลิตภัณฑ์ และกระบวนการผลิตตามมาตรฐานสากล และสามารถใช้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ในการพัฒนาและเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ โดยได้ดำเนินการในทุกภูมิภาค ในปี 2560 มีผู้ประกอบการที่ได้รับการผลักดันให้เข้าสู่กระบวนการยื่นขอรับรองมาตรฐาน จำนวน 454 ราย และผู้ประกอบการที่ได้รับประโยชน์จากการถ่ายทอดเทคโนโลยี จำนวน 3,858 ราย
 
     ดร.พสุ โลหารชุน อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า กสอ.มีบทบาทหน้าที่เป็นผู้คัดเลือกผู้ประกอบการ SME และวิสาหกิจชุมชน ที่เข้าร่วมโครงการฯต่าง ๆ ของ กสอ. ที่ยังขาดความรู้ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี และระบบดิจิทัลในการบริหาร จัดการธุรกิจหรือต้องการพัฒนาศักยภาพตนเอง ส่งต่อให้กับ วศ. ในการพัฒนาด้วยงานวิจัยและนวัตกรรมขั้นสูง เพื่อผลักดันไปสู่การต่อยอดในเชิงพาณิชย์ นำมาซึ่งมูลค่าทางเศรษฐกิจที่สูงขึ้น โดยที่ผ่านมา กสอ. มีภารกิจในการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการด้วยดิจิทัลในด้านต่าง ๆ 
 
     อาทิ การสนับสนุนการนำเทคโนโลยีและดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ในกิจการ การใช้โปรแกรม CAD/CAM/CAE เสริมสร้างศักยภาพด้านการผลิต ส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนให้ได้รับการการสร้างช่องทางการตลาดบนเครือข่ายสังคมออนไลน์ ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่ช่วยพัฒนาวิสาหกิจชุมชนให้สามารถตอบสนองต่อโลกได้ทันท่วงที ซึ่งผู้ประกอบการ ในยุคอุตสาหกรรม 4.0 จะต้องปรับตัวให้ทันการเปลี่ยนแปลงของโลก 
 
     ปัจจุบัน กสอ. พัฒนา SMEs และโอทอป รวมกว่า 7,000 ราย และ ตั้งเป้าหมายไว้ว่า ภายใน ปี 61 ผู้ประกอบการไม่ต่ำกว่า 50% จะต้องสามารถนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ในการบริหารจัดธุรกิจ ผ่านโครงการต่าง ๆ ของ กสอ. อาทิ โครงการยกระดับกระบวนการผลิตสินค้า โอทอป ด้วยเทคโนโลยี โครงการพัฒนายกระดับมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน โครงการพัฒนา SMEs ด้วยระบบ Digital และโครงการพัฒนาผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชนสู่ยุคดิจิทัล เป็นต้น 
 
     ทั้งนี้ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม และกรมวิทยาศาสตร์บริการ มีศักยภาพและความพร้อมที่จะสนับสนุนการดำเนินงานร่วมกัน โดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ทำหน้าที่เป็นผู้คัดเลือกผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม วิสาหกิจชุมชน เข้าร่วมโครงการฯ และส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนาผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม วิสาหกิจชุมชน ให้ใช้ระบบดิจิทัลเพื่อการพัฒนาและบริหารจัดการธุรกิจ กรมวิทยาศาสตร์บริการ ทำหน้าที่เป็นผู้นำองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ไปถ่ายทอดให้แก่ผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม วิสาหกิจชุมชนในทุกภาค และดำเนินการวิจัยพัฒนาการเพิ่มมูลค่าสินค้าผลิตภัณฑ์ชุมชนด้วยนวัตกรรม เพื่อพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม วิสาหกิจชุมชน ให้สามารถเพิ่มผลิตภาพและพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ให้ได้มาตรฐาน รวมทั้งการพัฒนาผลิตภัณฑ์เชิงนวัตกรรม 
 
     โดยผลสำเร็จของการดำเนินงานร่วมกัน คือ ทำให้ผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และวิสาหกิจชุมชน สามารถพัฒนาศักยภาพการผลิตสินค้า ให้มีคุณภาพได้มาตรฐานและเป็นที่ยอมรับ สร้างความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้า และขยายโอกาสเพื่อสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน ตามเป้าหมายการพัฒนาประเทศของรัฐบาลที่สอดคล้องกับแนวทางตามยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี ยุทธศาสตร์ที่ 2 การสร้างความสามารถในการแข่งขัน 
 
     สำหรับการดำเนินงานภายใต้ความร่วมมือครั้งนี้ เริ่มดำเนินการเดือนตุลาคมปีนี้ คาดว่าจะมีผู้ประกอบการเข้าร่วมจากการดำเนินการถ่ายทอดเทคโนโลยีให้แก่ผู้ประกอบการ วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และวิสาหกิจชุมชน 200-300 ราย และวางเป้าหมาย ภายใน 5 ปี จำนวนไม่น้อยกว่า 10,000 ราย นำร่องพัฒนาพัฒนาในกลุ่มอุตสาหกรรมได้แก่ อาหารแปรรูป เซรามิก แก้วและกระจก ผลิตภัณฑ์ยางพารา เยื่อและผลิตภัณฑ์กระดาษ ดร. พสุ กล่าว
 
     สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจรายละเอียด สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักพัฒนาอุตสาหกรรมชุมชน กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม โทรศัพท์ 02-367-8338 หรือ เข้าไปที่ www.dip.go.th
 
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

รวม 3 แบรนด์มะขาม รายได้ 100 ล้าน

พาไปส่อง 3 แบรนด์มะขามดัง ทั้งมะขามสารัช บ้านมะขาม และจี๊ดจ๊าด ที่บอกเลยว่ารายได้ไม่ธรรมดา เพราะเติบโตจนมีรายได้หลัก 100 ล้านบาท

The Bus Collective เปลี่ยนรถบัสเก่าเป็นโรงแรมสุดชิค ผสานดีไซน์ล้ำกับการท่องเที่ยวยั่งยืนอย่างลงตัว

โมเดลธุรกิจที่เปลี่ยนรถบัสปลดระวางให้กลายเป็น “ที่พักระดับพรีเมียม” โปรเจกต์นี้ไม่เพียงแต่สร้างมูลค่าใหม่จากทรัพยากรที่หมดอายุการใช้งาน แต่ยังตอบโจทย์เทรนด์ การท่องเที่ยวยั่งยืนที่กำลังเป็นกระแสไปทั่วโลก