​CRAZY CHICK สายนาฬิกาทำมือ จากงานอดิเรกสู่ธุรกิจทำเงินของคนบ้านาฬิกา

Text & Photo  :  nimsri

 
   
 
     ความชอบมักเป็นจุดเริ่มต้นให้เกิดธุรกิจ หรือรายได้งามๆ มานักต่อนักแล้ว ปิยวัช ชูตระกูล หรือ โต้ง’ ชายหนุ่มผู้ชื่นชอบนาฬิกาเป็นชีวิตจิตใจ ก็เป็นหนึ่งในนั้น


    “ผมเป็นคนชอบนาฬิกามาก นอกจากตัวเรือนแล้ว ก็ชอบหาสายนาฬิกาสวยๆ มาใส่ด้วย เผอิญมีนาฬิกาแบรนด์หนึ่งชื่อ Panerai เป็นนาฬิกาที่มีลูกเล่นให้เจ้าของสามารถเปลี่ยนสายใหม่ๆ ได้ด้วยตนเอง แต่เนื่องจากยังไม่ค่อยเจอแบบที่ชอบ เลยลองซื้อหนังมาหัดเย็บใช้เองก่อน จากเริ่มทำเป็นงานอดิเรก ก็เริ่มชอบมากขึ้นเรื่อยๆ เริ่มมีเพื่อนมาสั่งให้ทำให้ จากนั้นก็เริ่มบอกต่อปากต่อปาก จนรายได้ก็เริ่มมากขึ้นด้วย ตอนนั้นผมเปิดร้านซ่อมคอมพิวเตอร์อยู่ เลยขายกิจการต่อให้เพื่อน และหันมาทำสายนาฬิกาแทน เพราะเป็นสิ่งที่เราชอบมากกว่า”



 

  โต้งตั้งชื่อแบรนด์สายนาฬิกาของเขาขึ้นมาว่า ‘Crazy Chick’ ซึ่งมาจากชื่อเล่นของเขา และสื่อถึงความคลั่งไคล้ที่เขามีต่อนาฬิกา เมื่อเริ่มต้นคิดมาทำอย่างจริงจัง โต้งคิดว่าควรหาจุดเด่นให้ตัวเองก่อน เพื่อสร้างความแตกต่างจากสินค้าที่มีอยู่ในตลาด โดยวางคอนเซปต์ของสายนาฬิกาแบรนด์ Crazy Chick ไว้ว่า จะต้องเป็นสายที่แข็งแรง ทนทาน แปลกและเซอร์ ไม่เหมือนใคร เพราะเป็นสไตล์ที่ชอบด้วย ซึ่งสายนาฬิกาที่โต้งเลือกใช้นั้นผลิตมาจากกระเป๋าหนังเก่าที่มีชื่อว่า AMMO ว่ากันว่าเป็นกระเป๋าที่เคยไว้ใช้ใส่ลูกกระสุนปืนในยุคสงครามโลก มีความทนทานและหนาเป็นพิเศษ ที่สำคัญ คือ ต่อให้ใช้ไปนานๆ ยังไง ใส่แล้วก็ไม่เหม็นเหงื่อเหมือนหนังทั่วไป ซึ่งมีการคิดวิเคราะห์กันว่าน่าจะเป็นเพราะกลิ่นของเขม่าดินปืนที่มาช่วยกลบกลิ่นเหงื่อ ทำให้ไม่เหม็นก็เป็นไปได้





    “พอตัดสินใจมาทำเป็นอาชีพจริงจัง เราต้องมองหาความแตกต่างจากท้องตลาดให้ได้ ไม่อย่างนั้นก็จะเหมือนกันไปหมด เผอิญผมไปเจอหนังตัวหนึ่งชื่อว่า AMMO เป็นหนังที่ได้มาจากกระเป๋าใส่กระสุนปืนเก่าที่ใช้ในยุคสมัยสงครามโลก เป็นหนังฟอกฝาดแบบโบราณ มีความหนาและแข็งแรงทนทาน และด้วยอายุที่เก่าแก่ จึงทำให้หนังขึ้นลายสวยแบบธรรมชาติ ไม่สามารถเลียนแบบได้ ซึ่งแบรนด์เมืองนอกหลายแบรนด์ก็นิยมเอามาทำเป็นสายนาฬิกาเช่นกัน”



 

  หนัง AMMO ที่ว่านั้นต้องนำเข้ามาจากต่างประเทศ อาทิ  สวีเดน สวิตเซอร์แลนด์ ฝรั่งเศล ซึ่งนับวันก็จะหาได้ยากขึ้นทุกที โต้งจึงใช้วิธีเมื่อเห็นมีการประกาศขายทาง ก็จะซื้อเพื่อมาเก็บสต็อกไว้ก่อน โดยราคากระเป๋าหนึ่งใบจะอยู่ที่ 3,000 – 10,000 บาท โดยหลังจากได้ตัวกระเป๋าหนังมาแล้ว โต้งจะนำมาปัดฝุ่น เช็ดถู ทาน้ำมัน เพื่อเก็บรักษาไว้ในตู้สต็อก เมื่อมีออร์เดอร์เข้ามา ก็จะนำมาทำความสะอาดอีกครั้ง และแยกออกมาเป็นแผ่นๆ เตรียมไว้สำหรับตัดเป็นสายนาฬิกา และจึงจะทำการเย็บด้วยมือ สายนาฬิกาหนึ่งเส้นจะใช้เวลาทำราว 2 ชั่วโมง โดยขายอยู่ที่ราคาเส้นละ 4,000 – 5,000 บาท เฉลี่ยเดือนละ 50 -100 เส้น ซึ่งหากเปรียบเทียบกับสายนาฬิกาที่ผลิตจากหนังใหม่แล้ว ราคาจะอยู่ที่เส้นละ 800 – 1,000 บาทเท่านั้น



 

  “เหตุผลที่เราสามารถขายได้ 4,000 – 5,000 บาทต่อเส้น ในขณะที่สายนาฬิกาจากหนังใหม่ขายได้เพียง 800 – 1,000 บาท เป็นเพราะว่าเราตั้งใจอยากสร้างความแตกต่างจากในท้องตลาด จะได้ไม่ต้องไปแข่งขันกับคนอื่นมากนัก จึงทำให้เราสามารถกำหนดราคาได้ด้วยตนเอง แต่อีกเหตุผลหนึ่งเป็นเพราะเราเลือกใช้แต่วัตถุดิบที่ดีด้วย จึงมีต้นทุนค่อนข้างสูง สายนาฬิกาของเราทำมาจากกระเป๋าหนังเก่า ซึ่งใบหนึ่งก็ทำได้ไม่กี่เส้น บางทีก็ต้องเสี่ยงซื้อมา 10 ใบอาจเสื่อมสภาพ ใช้ไม่ได้ 3 ใบ ก็ต้องทิ้งไป แต่ถ้าเป็นหนังใหม่ซื้อมาแผ่นหนึ่ง 6,000 กว่าบาทได้วัวทั้งตัว ทำสายนาฬิกาได้เป็นร้อยๆ เส้น ต้นทุนเขาต่ำกว่า แต่ไม่มีความแตกต่างในตลาด ทำให้ทำราคาได้ยากกว่า”


  นอกจากกระเป๋าหนัง AMMO แล้ว โต้งยังใช้หนังจากกระเป๋าแบรนด์เนมต่างๆ ด้วย อาทิ หลุยส์วิกตอง มาสร้างสีสันและเพิ่มมูลค่าให้กับแบรนด์ได้ นอกจากนี้เขายังผลิตเป็นผลิตภัณฑ์อื่นๆ เพิ่มเติมขึ้นมาด้วย อาทิ กระเป๋าสตางค์นาฬิกา เข็มขัด



   

     โต้งบอกกับเราว่าทุกวันนี้เขามีความสุขอยู่กับห้องทดลองเล็กๆ ของเขาที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือครบครัน ใครเลยจะรู้ว่าครั้งหนึ่งเขายอมที่จะสละของสะสมแสนรัก จากนาฬิกาเรือนแสนให้กลายเป็นห้องทดลองที่สร้างความสุขได้มากกว่าการเก็บสะสม ให้เขาได้ทดลองประดิษฐ์คิดค้น สร้างชิ้นงานของตัวเองขึ้นมา และรายได้งามๆ อย่างในทุกวันนี้


    “ที่เลือกมาตรงนี้ทำ เพราะเราชอบ ดังนั้นกำไรไม่ใช่วัตถุประสงค์หลัก ขอแค่ตั้งใจทำออกมาให้ดี แตกต่าง ใครๆ ก็อยากได้”


     วันนี้โต้งมีความสุขแล้ว แล้วคุณละมีความสุขกับสิ่งที่รักบ้างหรือยัง...



www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

 

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

tISI แบรนด์แฟชั่นย้อมสีธรรมชาติ ส่วนผสมลงตัวงานคราฟต์ไทยกับดีไซน์ร่วมสมัย ที่ฝันว่าวันหนึ่งจะไปตั้งขายอยู่กลางกรุงปารีส

ปัญหาหนึ่งของงานคราฟต์ไทย ที่ทำให้ไม่ได้รับความนิยมมากเท่าที่ควร แม้จะเป็นงานทรงคุณค่า ก็คือ ไม่สามารถนำมาประยุกต์ใช้จริงอยู่ในชีวิตประจำวันได้ แต่อาจไม่ใช่กับ tISI (ธิซายด์) แบรนด์แฟชั่นไทยน้องใหม่ที่มองว่าไม่จำเป็นต้องอนุรักษ์ หากสิ่งนั้นเป็นที่ต้องการอยู่แล้ว

สานต่อตำนาน 70 ปี ทายาทรุ่น 3 ปัดฝุ่น รร.แสงทองเฮอริเทจ สู่แลนด์มาร์คใหม่แห่งนครพนม

เพราะความฝันที่จะสานต่อโรงแรมเก่าแก่ "แสงทอง" ที่บรรพบุรุษสร้างขึ้น กรรณิการ์ หนูห่วง ทายาทรุ่นที่ 3 จึงตัดสินใจกลับ จ.นครพนม เพื่อหวังฟื้นฟูโรงแรมที่มีสถาปัตยกรรมโบราณให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ท่ามกลางความไม่เห็นด้วยของครอบครัว และโจทย์หินมากมาย

วิธีเปลี่ยนไอเดีย “ตัน” เป็น “มันส์” แบบ Matty Benedetto ยอดนักประดิษฐ์จอมกวน  

เพราะคำว่า “ไม่จำเป็น” ≠ “ไม่มีประโยชน์” ชิ้นงานแสนฮาของ Matty Benedetto “อัจฉริยะผู้ชั่วร้าย” จึงเป็นตัวอย่างชั้นดีให้กับผู้ประกอบการที่ตกอยู่ในอาการไอเดียตัน คิดอยากทำผลิตภัณฑ์ใหม่หรือพัฒนาผลิตภัณฑ์เดิมได้ลองมาเรียนรู้กัน