กระแสรักษ์สุขภาพ และไลฟ์สไตล์ที่ต้องการความสะดวกสบายของผู้บริโภคยุคใหม่ สร้างโอกาสแจ้งเกิดให้กับธุรกิจใหม่อย่างผลิตภัณฑ์น้ำมันผักและสมุนไพรปรุงอาหารแบรนด์ “Thais” (ธาอีส) ปักธงในตลาดในประเทศและต่างประเทศจากแนวคดิ การคำนึงถึงสุขภาพ ซึ่งอาหารและเครื่องปรุงในท้องตลาดที่ซื้อมาทำอาหารกันทุกวันนี้จะผ่านขั้นตอนการผลิตที่ทำให้คุณค่าทางโภชนาการถดถอยเสื่อมคุณค่าไป หรือเป็นสารสังเคราะห์กันมาก
ทีญา เผ่าสวัสดิ์ ผู้บริหาร บริษัท แนททาทวี จำกัด จึงคิดหาเครื่องปรุงรสชาติทดแทนที่ทำมาจากพืช เครื่องเทศและสมุนไพรธรรมชาติ100% ด้วยกรรมวิธีภูมิปัญญาไทย ผสมผสานกับเทคโนโลยีการผลิตที่
ทนั สมยั โดยไม่ผ่านความร้อน ไม่ใช้สารเคมี สกัดน้ำมันจากพืช เครื่องเทศและสมุนไพร ด้วยกรรมวิธีแบบ “หีบเย็น” (Cold Press) จึงยังคงคุณค่าสารอาหารสำคัญไว้ได้อย่างครบถ้วน
“จุดเริ่มต้นเริ่มจากเดิมทำธุรกิจจัดหาแม่บ้านทำความสะอาดตามคอนโดมิเนียม สำนักงานต่างๆ ซึ่งแม่บ้านส่วนใหญ่มาจากครอบครัวเกษตรกรที่ประสบปัญหาพืชผลเกษตรราคาตกต่ำ จึงเกิดแนวคิดอยากหาทางช่วยเหลือโดยรับซื้อผลผลิตและจัดส่งตามโรงแรม ร้านอาหารที่รู้จัก แต่ด้วยความที่มีแม่บ้านเยอะมาก 800กว่าคนทำให้ผลผลิตมีจำนวนมากจนไม่มีที่จะเก็บ ทำให้เน่าเสียง่าย จึงลองปรึกษานักวิจัยผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งแนะนำให้ทดลองแปรรูป ในที่สุดจึงทดลองด้วยวิธีสกัดเย็นและได้ผลิตภัณฑ์น้ำมันออกมาซึ่งยังคงคุณค่ากลิ่นและรสตามธรรมชาติ และสามารถเก็บรักษาไว้
ได้นาน”
ทีญาเล่าว่า จากประสบการณ์ที่เคยใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศทำให้มองเห็นโอกาสทำการตลาด ซึ่งในต่างประเทศมีการใช้น้ำมันผักและสมุนไพรกันมาอย่างแพร่หลาย เช่น ใช้กระเทียมใส่น้ำมันมะกอกเพื่อละลายให้ได้เป็นกลิ่นกระเทียม ทดแทนการใช้ผัก สมุนไพรจริงๆ ในการปรุงอาหาร แต่ด้วยประเทศไทยของเรามีผักสมุนไพร สดอยู่เป็นจำนวนมาก จึงไม่นิยมใช้น้ำมันสมุนไพรมาทำอาหารเหมือนกับต่างประเทศ
“กระแสรักษ์สุขภาพยังเป็นโอกาสหนึ่งในการทำตลาดอย่างเช่น น้ำมันกระเทียม ถ้าเป็นของสดอาจเสี่ยงกับความสะอาดและเชื้อราจากความชื้น แต่น้ำมันของเราจัดเป็นน้ำมันบริสุทธิ์ซึ่งสามารถเก็บไว้ได้นานโดยไม่ต้องแช่ตู้เย็นโดยคุณค่าสารอาหารยังอยู่ครบถ้วนไม่ต่างจากของสด นอกจากนี้ ผู้ป่วยความดันโลหิตสูงยังสามารถรับประทานน้ำมันกระเทียมที่สกัดออกมาเปล่าๆ วันละหนึ่งช้อนชา เพื่อช่วยลดไขมันในเส้นเลือดได้อีกด้วย”
ปัจจุบันบริษัทแนททาทวีสามารถผลิตน้ำมันบริสุทธิ์ได้กว่า 20 ชนิดสำหรับป้อนให้กับกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมอาหาร แต่ที่นำมาทำตลาดขายปลีกโดยตรงถึงผู้บริโภคมี 7 ชนิด ได้แก่ พริกแดง พริกไทยดำ ผักชี กระเทียม อบเชย โป๊ยกั๊ก และขิง ซึ่งสมุนไพรแต่ละตัวล้วนมีคุณประโยชน์ต่อการดูแลสุขภาพ เช่น พริกแดงช่วยขับลมและกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต กระเทียมมีวิตามินซีช่วยต้านอนุมูลอิสระ พริกไทยดำช่วยบำรุงธาตุ เป็นยาขับลม กระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต ส่วนอบเชยช่วยขับลม ลดกลิ่นในช่องปาก เป็นต้น
“กลุ่มเป้าหมายของเราหลักๆ คือ กลุ่มผู้บริโภคที่รักสุขภาพมาเป็นอันดับหนึ่ง และเน้นความสะดวกสบายมาเป็นอันดับสอง กลุ่มนี้จะเป็นกลุ่มคนที่อาศัยอยู่ในคอนโดมิเนียม เป็นกลุ่มคนทำงานที่ใช้ชีวิตรีบเร่ง ในแต่ละวันไม่มีเวลาไปซื้อของ เป็นกลุ่มพ่อบ้านแม่บ้านสมัยใหม่ ซึ่งนิยมใช้เครื่องปรุงรสสำเร็จรูปในการทำอาหาร เพราะไม่มีเวลามานั่งโขลกพริกกระเทียมหรือเตรียมของสด อย่งน้ำมันของเราใช้เพียงนิดเดียวก็จะได้รสชาติและกลิ่นที่แรง สามารถใช้ทดแทนวัตถุดิบสดจริงๆ"
นอกจากการใช้กระบวนการผลิตเพื่อให้ได้น้ำมันบริสุทธิ์ที่สุด(Extra Virgin Oil) โดยไม่ผสมกับนำ??้ มันชนิดอื่น และคงคุณค่าสารอาหารโดยธรรมชาติไม่ให้ถูกทำลายแล้ว บริษัทยังมีการควบคุมผลผลิตการเกษตรที่รับซื้อตั้งแต่ขึ้นตอนการปลูกว่าต้องเป็นเกษตรอินทรีย์ปลอดสารเคมี โดยมีพื้นที่การเกษตรกระจายอยู่ทั่วประเทศกว่า 500 ไร่ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเครือข่ายกลุ่มเกษตรกรแม่บ้านของบริษัท
ทั้งนี้เพราะการใช้ผลผลิตในการสกัดน้ำมันแต่ละครั้ง ต้องใช้ปริมาณมาก เช่น พริกสด 100 กิโลกรับ จะสามารถสกัดเป็นน้ำมันพริกได้ 5 กิโลกรม หรือคิดเป็น 5% ของวัตถุดิบที่ใช้ โดยปัจจบันบริษัทมีกำลังผลิตชนิดละ 2,000 ลิตรต่อเดือน
สำหรับทิศทางธุรกิจในอนาคต ทีญาหมายมั่นว่าอยากทำให้สินค้าของไทยโด่งดังไปทั่วโลก โดยนอกจากนำพืชผักสมุนไพรมาสกัดน้ำมันแล้ว ยังมองเห็นโอกาสแตกไลน์เป็นผลไม้สกัดเป็นน้ำมัน ซึ่งยังคงคุณค่าวิตามินสูง สอดคล้องกับเทรนด์รักษ์สุขภาพ นอกจากนี้ ยังมองโอกาสแตกไลน์สินค้าเพื่อการปรุงอาหารที่ง่ายขึ้น เช่น รูปแบบผง และเครื่องปรุงอาหารที่ทำให้ชีวิตง่ายขึ้น เหมาะกับไลฟ์สไตล์ในเมืองหลวงที่ชีวิตรีบเร่ง
ที่มา : วารสาร K SME Inspired