กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ผสานพลัง Chevron ปั้นช่างเทคนิค 4.0 รองรับอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย




     กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จับมือโครงการ Chevron Enjoy Science: สนุกวิทย์ พลังคิด เพื่ออนาคต จัดตั้ง “ศูนย์การศึกษาเพื่อพัฒนาทักษะอาชีพด้านยานยนต์” หรือ TVET Automotive Hub ที่ จังหวัดชลบุรี มุ่งปั้น “ช่างเทคนิค 4.0” รองรับนโยบายพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย เติมทักษะปิดจุดอ่อนแรงงาน ตอบโจทย์แผนพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ EEC

     นางหทัยรัตน์ อติชาติ ผู้จัดการฝ่ายนโยบายด้านรัฐกิจและกิจการสัมพันธ์ บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด กล่าวว่า แรงงานนับเป็นหนึ่งกุญแจสำคัญในการพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบันที่เทคโนโลยีการผลิตพัฒนาก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ประกอบกับนโยบายของรัฐบาลที่กำหนดให้อุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนเป็น 1 ใน 10 อุตสาหกรรมขับเคลื่อนเศรษฐกิจแห่งอนาคต (New S-Curve) โดยมุ่งพัฒนาสู่อุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าที่ต้องใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเป็นหัวใจสำคัญ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันและรักษาตำแหน่งผู้นำฐานผลิตและส่งออกอุตสาหกรรมยานยนต์ ดังนั้นการพัฒนาให้แรงงานและนักเรียนอาชีวะที่จะเข้าสู่การทำงานในภาคอุตสาหกรรมมีทักษะและความรู้ที่สอดคล้องกับการพัฒนาทางเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมจึงเป็นเรื่องจำเป็นเร่งด่วน

     ด้วยเหตุนี้ โครงการ Chevron Enjoy Science: สนุกวิทย์ พลังคิด เพื่ออนาคต ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ด้วยการส่งเสริมการศึกษาในสาขาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์ หรือ สะเต็ม รวมถึงการพัฒนานักเรียนอาชีวศึกษาและบุคลากรสายอาชีพให้มีทักษะตอบโจทย์ความต้องการของภาคอุตสาหกรรม จึงได้ร่วมมือกับกรมพัฒนาฝีมือแรงงานจัดตั้ง “ศูนย์การศึกษาเพื่อพัฒนาทักษะอาชีพด้านยานยนต์ หรือ TVET Automotive Hub” เพื่อยกระดับทักษะแรงงานให้เป็นช่างเทคนิค 4.0 ขึ้นที่สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 3 ชลบุรี เพราะภาคตะวันออกถือว่าเป็นศูนย์กลางการผลิตของอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน เพื่อให้ศูนย์ฯ แห่งนี้ เป็นฟันเฟืองสำคัญยกระดับอุตสาหกรรมของประเทศไทย ลดความเหลื่อมล้ำด้านทักษะแรงงาน ทั้งสามารถตอบโจทย์เป้าหมายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกหรือ EEC
 
     นายปิยะบุตร ชลวิจารณ์ ประธานอำนวยการสถาบันคีนันแห่งเอเซีย กล่าวว่า บทบาทสำคัญของศูนย์การศึกษาเพื่อพัฒนาทักษะอาชีพด้านยานยนต์ (TVET Automotive Hub) มีอยู่ด้วยกัน 3 ประการ คือ การส่งเสริมการพัฒนาองค์ความรู้ โดยจัดหลักสูตรพัฒนาครูฝึกของกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน และครูด้านเทคนิคของสถาบันอาชีวะในเครือข่าย ซึ่งเป็นผู้ที่จะนำองค์ความรู้ไปถ่ายทอดให้นักเรียนอาชีวะเพื่อเสริมสร้างทักษะที่จำเป็นสำหรับช่างเทคนิครุ่นใหม่ โดยเป็นการนำหลักสูตรของสถาบันที่ใช้พัฒนาช่างเทคนิคสู่กลุ่มแรงงานทักษะขั้นสูงของประเทศออสเตรเลีย และประเทศอื่นๆ ทั่วโลกมาผสานกับหลักสูตรของสถาบันไทย - เยอรมัน ซึ่งมีทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติควบคู่กัน ขณะเดียวกันได้ร่วมกับภาคเอกชนจัดอบรมครูด้านเทคนิคของสถาบันอาชีวะ เพื่อนำไปพัฒนาหลักสูตรที่เหมาะสมและเท่าทันการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีสมัยใหม่อย่างระบบแมคคาทรอนิกส์และออโตเมชั่น

     นอกจากนี้ ศูนย์การศึกษาเพื่อพัฒนาทักษะอาชีพด้านยานยนต์ ยังเปิดโอกาสให้นักเรียนอาชีวะเข้ามาเสริมสร้างประสบการณ์ โดยใช้พื้นที่ของศูนย์ฯ ซึ่งมีพร้อมทั้งอุปกรณ์การฝึกจนถึงเครื่องจักรขนาดใหญ่ ซึ่งช่วยแก้ปัญหาข้อจำกัดด้านพื้นที่และเครื่องมือของวิทยาลัยเทคนิคที่อาจขาดแคลนหรือมีอย่างจำกัด

     นายธีรพล ขุนเมือง อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กล่าวว่า TVET Automotive Hub บริหารงานภายใต้คณะกรรมการจาก 8 หน่วยงาน โดยมีสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 3 ชลบุรี เป็นผู้รับผิดชอบหลัก ซึ่งมีความพร้อมทั้งเครื่องมือฝึกทักษะฝีมือและเทคนิควิชาชีพด้านยานยนต์ที่ทันสมัยสุดในประเทศ สามารถรองรับการพัฒนาแรงงานฝีมือภาคตะวันออกปีละกว่า 5,000 คน ทำให้มั่นใจว่า TVET Automotive Hub จะสามารถผลิต “ช่างเทคนิค 4.0” รองรับการขยายตัวอุตสาหกรรมภาคตะวันออก แก้ปัญหาขาดแคลนแรงงานทั้งด้านคุณภาพและปริมาณได้ นอกจากป้อนกลุ่มยานยนต์และชิ้นส่วนยังครอบคลุมอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่องตามแผน EEC อาทิ ธุรกิจการบินและโลจิสติกส์ เป็นต้น ทั้งยังสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ประเทศไทย 4.0 ที่ต้องการนำประเทศสู่การมีระบบเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมอีกด้วย

     ทั้งนี้ 8 หน่วยงานที่ร่วมในการบริหาร TVET Automotive Hub ประกอบด้วย โครงการ Chevron Enjoy Science:  สนุกวิทย์ พลังคิด เพื่ออนาคต สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 3 ชลบุรี สถาบันยานยนต์ สถาบันไทย - เยอรมัน วิทยาลัยเทคนิคชลบุรี สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ บริษัท ไทยซัมมิท ออโตโมทีฟ จำกัด และ บริษัท แสงเจริญทูลส์ เซ็นเตอร์ จำกัด ภายใต้รูปแบบ “รัฐร่วมเอกชน”


www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

ทิ้งเก้าอี้ผู้บริหารบริษัทระดับโลก มาปั้นแบรนด์บะหมี่ขาย เดือนละ 60 ตู้คอนเทนเนอร์!

ได้ขึ้นแท่นตำแหน่งสูง งานดี เงินดี น้อยคนนักที่จะคิดอยากลงมาเริ่มต้นใหม่ แต่อาจไม่ใช่กับ ยัง ชาง หนุ่มไต้หวันที่ตัดสินใจละทิ้งทุกอย่าง เพื่อออกมาเป็นผู้ประกอบการปั้นแบรนด์บะหมี่ของตัวเองขาย

ส่งไม้ต่อจากรุ่นสู่รุ่น “ไชยแสง” โมเดิร์นเทรดตำนานเมืองสิงห์ ทำอย่างไรจึงยืนหยัดนานกว่า 30 ปี

เมื่อทายาทรุ่นใหม่เข้ามาสานต่อกิจการ ไม่ได้เพียงรับช่วงต่อ แต่ยังรับเอาหัวใจของธุรกิจ คือความเข้าใจผู้คนในท้องถิ่น และกล้าที่จะปรับเปลี่ยน จึงทำให้ธุรกิจไม่เพียงอยู่รอด แต่ยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับ “ห้างไชยแสง” สิงห์บุรี

SME ต้องรู้!!! 5 เทรนด์ Up Coming ปี 2026 รู้ก่อน เท่ากับ โอกาส

ปี 2026 สิ่งที่ SME ไทยต้องโฟกัสคือการนำเทรนด์ใหม่ๆ ไม่จำเป็นต้องวิ่งตามทุกอย่าง แต่ต้องเลือกสิ่งที่เหมาะกับปัญหาและเป้าหมาย และเทรนด์ทั้ง 5 นี้ คือ “เข็มทิศ” ที่จะช่วยให้ SME ไทยเตรียมรับมือและพลิกเกมธุรกิจได้อย่างชาญฉลาดในปี 2026