Text : กองบรรณาธิการ
ในการทำธุรกิจ แน่นอนว่าผู้ประกอบการทุกคนย่อมต้องเคยมีปัญหาอุปสรรคมาให้แก้ไขไม่เว้นแต่ละวัน ฉะนั้นความยากของการทำธุรกิจจึงแตกต่างกันไป วันนี้ SME Thailand มีมุมมองความยากของการทำธุรกิจจาก 3 แบรนด์ดังบนโลกออนไลน์ ผ่าน 3 คำถาม ที่จะช่วยทำให้คุณเห็นในอีกหลายหลายแง่มุมของการทำธุรกิจมากขึ้น ไม่แน่เผื่อคุณอาจได้ไอเดียดีๆ นำไปปรับใช้กับธุรกิจของตัวเองได้บ้าง
ธัชพร วาจาสัตย์ – Lavanetta /เสื้อผ้า
Q : ความยากของการทำธุรกิจ
A : เราอยู่ในธุรกิจเสื้อผ้า ซึ่งเป็นแฟชั่น ต้องบอกว่าความยาก คือ เทรนด์หรือความต้องการของตลาดเปลี่ยนเร็วมาก ตอนแรกอาจจะฮิตอย่างนี้ แต่เวลาเปลี่ยนไปอาจจะฮิตอีกอย่าง เช่น ยุคหนึ่งฮิตกางเกงขาสั้น มาอีกยุคฮิตกางเกงขายาว เราก็ต้องปรับตามที่ลูกค้าต้องการบ้าง เพราะไม่งั้นก็ขายไม่ได้ แต่ขณะเดียวกันต้องคงคาแร็กเตอร์ของตัวเองและแบรนด์ไว้ให้ได้ด้วย
Q : ปัญหาที่เคยเจอหนักสุด หรือที่มักเจออยู่บ่อยๆ
A : ด้วยความที่แบรนด์เสื้อผ้าออนไลน์มีเยอะ เราอยากสร้างคาแร็กเตอร์ให้กับแบรนด์ จึงเลือกที่จะออกแบบลายผ้าและสั่งพิมพ์เป็นของตัวเอง เคยมีครั้งหนึ่งด้วยความที่ขายดีมาก เมื่อผ้าล็อตแรกหมด แต่ลูกค้ายังอยากได้อยู่ เราจึงสั่งผลิตเพิ่ม แต่ทีนี้ด้วยความที่สั่งกันคนละล็อตสีจึงเกิดความผิดเพี้ยนได้ เสียไปกว่า 300 – 400 หลา คือ ยังใช้ได้ แต่สีไม่เหมือนเดิม เราก็ต้องพยายามแก้ไข ก็ใช้วิธีผลิตออกมา แต่วางขายกันคนละที่ เพื่อไม่ให้ลูกค้ารู้สึกถึงแตกต่างและเอามาเปรียบเทียบได้ หลังๆ จึงคำนวณเผื่อไว้ก่อนว่าจะตัดชุดอะไรบ้าง ปริมาณเท่าไหร่ และสั่งผลิต ถ้าหมดแล้วก็หมดเลย ไม่พิมพ์ซ้ำ เพราะกลัวไม่เหมือนเดิม
Q : ถ้าอยากจะทำธุรกิจให้สำเร็จต้องทำอย่างไร
A : ตอนนี้แบรนด์เสื้อผ้าออนไลน์มีเยอะมาก สิ่งที่เราพยายามทำมาตลอด คือ การรักษาจุดเด่นและเอกลักษณ์ของแบรนด์ แต่สิ่งสำคัญนอกเหนือจากนี้เราควรให้ความสำคัญกับลูกค้าด้วย บางครั้งเขาอาจจะถามเยอะหน่อย บางทีถามไปถึงชีวิตส่วนตัว แต่ก็เป็นเพราะอยากรู้จักตัวตนของเรา ซึ่งเมื่อเขาได้เชื่อใจแล้ว ไว้วางใจแล้ว ทีนี้ก็อยู่ด้วยกันยาว บางทีแค่โทรมาบอกว่าอยากได้ชุดสีประมาณนี้นะ ที่เหลือก็ให้เราช่วยจัดการให้ เลยทำให้เรารู้สึกว่าการทำธุรกิจ สิ่งสำคัญไม่ใช่แค่ทำสินค้าดีอย่างเดียว แต่ต้องเป็นเพื่อนเขาให้ได้ด้วย ทุกวันนี้ก็จะตอบคำถามลูกค้าเองตลอด เพราะเรามองว่า คือ สิ่งสำคัญ
ณิชา สมิทธิปรีชาวงษ์ – Trooper / กระเป๋าเป้
Q : ความยากของการทำธุรกิจ
A : น่าจะเป็นในช่วงเริ่มต้น คือ ตอนแรกเราเริ่มทำออกมาจากการตามใจตัวเองก่อน อยากมีเป้สีสันสดใสใช้บ้าง แต่พอทำไปเรื่อยๆ พอธุรกิจเริ่มเติบโตขึ้น เราทำตามใจตัวเองอย่างเดียวไม่ได้แล้ว เพราะทุกคนไม่ได้ชอบเหมือนเราทุกคน ฉะนั้นเราต้องหันมาศึกษาลูกค้าให้มากขึ้น ว่าลูกค้าของเรา คือ ใคร ชอบอะไร เสพสื่อแบบไหน เพื่อที่จะได้เข้าใจเขาให้มากที่สุด และนำมาเป็นข้อมูลพื้นฐานในการผลิตสินค้า เพื่อที่เราจะได้เป็น Top of mind ของเขา เวลาอยากได้สินค้าแบบนี้จะได้คิดถึงเรา เพราะสมัยนี้มีแบรนด์เกิดขึ้นมากมาย
Q : ปัญหาที่เคยเจอหนักสุด หรือที่มักเจออยู่บ่อยๆ
A : เป็นเรื่องช่าง เรื่องการสื่อสาร ด้วยความที่เราออกแบบกระเป๋ามาแต่ละสีให้ไม่เหมือนกัน โดยใช้วิธีจับคู่สีข้างนอกกับข้างในเป็นคู่ๆ ไป ปรากกฎว่าก่อนทำก็คุยกันดิบดี แต่พอได้ออกมาสรุปว่าสลับสีที่เราให้ไว้หมดเลย ก็ต้องเริ่มต้นกันใหม่ หาช่างใหม่กันไป
Q : ถ้าอยากจะทำธุรกิจให้สำเร็จต้องทำอย่างไร
A : ถ้าให้พูดในฐานะเด็กรุ่นใหม่ แนะนำว่าอยากทำอะไร ก็ลองทำเลยดีกว่า แต่สำคัญ คือ ต้องศึกษาดีๆ ไม่ว่าจะเป็นคู่แข่ง สินค้า หรือแม้แต่ตัวเราเอง ศึกษาให้ดีว่าอะไร คือ จุดแข็งของสิ่งที่เราจะทำ จากนั้นทำมันออกมาให้ดีที่สุดชัดเจนที่สุด
นันทกุล ซีตันติเวช – Dallar Jewelry / เครื่องประดับ
Q : ความยากของการทำธุรกิจ
A : ด้วยความที่สินค้าของเราเป็นสินค้าที่มีอัตลักษณ์ของตัวเองค่อนข้างสูง มีข้อดี คือ ทำให้สินค้าเป็นที่จดจำได้ง่าย แต่ขณะเดียวกันก็มีข้อเสียด้วยเช่นกัน คือ เราไม่ใช่สินค้าแมส นั่นหมายความว่าไม่ใช่ผู้บริโภคทุกคนจะมาเป็นลูกค้าเรา ฉะนั้นส่วนหนึ่งที่เราทำได้ คือ ต้องรู้จักปรับตัวเข้าหาลูกค้าบ้าง ดูว่าลูกค้าต้องการอะไร โดยไม่ยึดติดในอีโก้หรือความเป็นตัวของตัวเองมากเกินไปนัก แต่ขณะเดียวกันก็อย่าให้สูญเสียอัตลักษณ์ของตัวเองไปด้วย
Q : ปัญหาที่เคยเจอหนักสุด หรือที่มักเจออยู่บ่อยๆ
A : ที่เป็นปัญหากับเรามากสุด คือ เรื่องช่างเหมือนกัน งานจิวเวอรี่เป็นงานที่ละเอียดอ่อน ถึงแม้จะมีช่างจิวเวอรี่หลายคน แต่จะหาคนที่สนใจรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ไม่ได้มีในทุกคนที่เป็นช่างจิวเวอรี่ และเขามักมีความอินดี้สูงด้วย บางทีอยากทำก็ทำ อยากหยุดบ้างก็หยุด ก็ต้องใช้การคุยกัน และอีกอย่างด้วยความที่เราไม่ใช่แบรนด์ใหญ่ ก็ยากเหมือนกันที่จะทำให้เขาอยู่กับเราไปนานๆ ทั้งเขาและเราจะต้องเห็นจุดยืนเดียวกัน เห็นการเติบโตไปพร้อมๆ กัน ถึงจะอยู่ด้วยกันได้ยาว
Q : ถ้าอยากจะทำธุรกิจให้สำเร็จต้องทำอย่างไร
A : แบรนด์ของเราเริ่มต้นมาจากทำสิ่งที่รัก เราจึงอยากแนะนว่าถ้าชอบอะไรแล้ว ลองทำมันออกมาดูก่อน อะไรก็ได้ที่เราชอบและถนัดและทำมันออกมาให้ดีที่สุด จนรู้สึกว่าไม่อยากจะขายของชิ้นนี้ออกไปเลย ทำมาสวยมาก จนอยากเก็บเอาไว้ใช้เอง เมื่อถึงจุดนั้นแล้วลูกค้าจะเดินมาหาคุณและเข้าใจในสิ่งที่คุณทำเอง
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี
RECCOMMEND: ENTREPRENEUR
ปัญหาหนึ่งของงานคราฟต์ไทย ที่ทำให้ไม่ได้รับความนิยมมากเท่าที่ควร แม้จะเป็นงานทรงคุณค่า ก็คือ ไม่สามารถนำมาประยุกต์ใช้จริงอยู่ในชีวิตประจำวันได้ แต่อาจไม่ใช่กับ tISI (ธิซายด์) แบรนด์แฟชั่นไทยน้องใหม่ที่มองว่าไม่จำเป็นต้องอนุรักษ์ หากสิ่งนั้นเป็นที่ต้องการอยู่แล้ว
เพราะความฝันที่จะสานต่อโรงแรมเก่าแก่ "แสงทอง" ที่บรรพบุรุษสร้างขึ้น กรรณิการ์ หนูห่วง ทายาทรุ่นที่ 3 จึงตัดสินใจกลับ จ.นครพนม เพื่อหวังฟื้นฟูโรงแรมที่มีสถาปัตยกรรมโบราณให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ท่ามกลางความไม่เห็นด้วยของครอบครัว และโจทย์หินมากมาย
เพราะคำว่า “ไม่จำเป็น” ≠ “ไม่มีประโยชน์” ชิ้นงานแสนฮาของ Matty Benedetto “อัจฉริยะผู้ชั่วร้าย” จึงเป็นตัวอย่างชั้นดีให้กับผู้ประกอบการที่ตกอยู่ในอาการไอเดียตัน คิดอยากทำผลิตภัณฑ์ใหม่หรือพัฒนาผลิตภัณฑ์เดิมได้ลองมาเรียนรู้กัน