จากกิจการโรงงานทำเฟอร์นิเจอร์ที่ได้รับสืบทอดมาจากครอบครัว สู่แบรนด์ ฟูลเฮาส์ พลัส ที่โลดแล่นในแวดวง built in เฟอร์นิเจอร์ที่เน้นงานฝีมือมานานกว่า 10 ปี และเห็นถึงช่องทางที่จะกลายเป็นโอกาสในการขยายธุรกิจจากจุดที่คนส่วนใหญ่มองข้าม จนเกิดนวัตกรรมบานประตูพร้อมวงกบสำเร็จรูปออกสู่ตลาดที่พร้อมจะเติบโตต่อไปอีกเรื่อยๆ
รุ่งโรจน์ ตั้งเศรณีกุล เล่าถึงเส้นทางของเขาว่า ฟูลเฮาส์ พลัส เริ่มต้นจากการฉีกกรอบฐานลูกค้าเดิมซึ่งเป็นหน่วยงานราชการมาเป็นลูกค้าภาคเอกชน โดยขณะนั้นได้ตั้งร้านอยู่ที่ Crystal Design Centerหรือ CDC และเป็นจังหวะเหมาะกับที่บริษัท เครือซิเมนต์ไทย หรือ SCG ริเริ่มโครงการบ้านประหยัดพลังงานขึ้นมา ทำให้ฟูลเฮาส์ พลัส ได้แสดงฝีมือจนถูกเลือกเป็นขาประจำกับ SCG
อย่างไรก็ดี เขามองว่าการจะทำธุรกิจให้ยืนได้ด้วยลำแข้งโดยไม่ต้องพึ่งใคร จำเป็นต้องมีช่องทางมากกว่าหนึ่ง ดังนั้นฟูลเฮาส์ พลัส จึงหันมามองตลาด mass และเริ่มคิดค้นพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ และคำตอบที่ออกมาคือ “ประตู” เพราะทุกบ้านไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ต้องมีประตู
แต่จะทำอย่างไรให้ประตูนี้มีความแตกต่างจากผลิตภัณฑ์ในท้องตลาดได้ และประสบการณ์การทำ built in ที่ผ่านมาก็บอกเสมอว่าการจะทำประตูสักบานไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากต้องมีข้อควรระวังและขั้นตอนต่างๆ มากมาย จึงมองเห็นโอกาสว่า ทำไมเราจึงไม่ทำประตูพร้อมวงกบสำเร็จรูปที่ติดตั้งได้ง่ายๆ ล่ะ? ด้วยเหตุนี้ นวัตกรรมประตูพร้อมวงกบจึงเกิดขึ้นและผ่านการรับรองจากคูปองนวัตกรรม โดยสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ
รุ่งโรจน์ กล่าวถึงการเข้าร่วมหลักสูตรอบรม Next Step NEC 2017 ว่า สื่อโซเชียลมีเดียต้องมีการพัฒนาอีกมาก อีกทั้งฟูลเฮาส์ พลัส เองก็มีสื่อโซเชียลมีเดียครบทุกแพลทฟอร์ม แต่ปัญหาคือการขาดความชำนาญในด้านการตลาดบนเฟสบุ๊ค หลักสูตรอบรมนี้จึงเป็นคำตอบ นอกจากนี้การเข้าร่วม Next Step NEC 2017 ยังทำให้เข้าใจถึงความสำคัญของการทำการตลาดบนวีดีโอและคำว่า Native Present ที่เป็นเทคนิคว่าเราจะขายของอย่างไรให้เหมือนไม่ขาย และหากเขาไม่ได้มาเข้าร่วมในวันนี้ เขาก็คงไม่มีทางสลัดแนวคิดเดิมๆ เพื่อหาทางพัฒนาสิ่งใหม่ๆ ได้
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี