TEXT : กองบรรณาธิการ
อยากได้จักรยานไฟฟ้าไว้ซักคันประหยัดแรงแต่ ราคามันแพงซื้อมอเตอร์ไซค์ได้เลย แบตเตอรี่หมดต้องรอชาร์จนาน วิ่งได้แป๊บๆ ก็ดับละถ้าไม่มีที่ปั่นทำไง? เข็นรึ แถมดีไซน์มันไม่โดน อารมณ์มันไม่ได้ฟีลเหมือนตอนคร่อมอิหนูคันโปรดออกปั่นท้าความหฤโหดบนถนน แม้ทั่วโลกไม่ใช่แค่ในประเทศไทยจะมีจักรยานไฟฟ้าวางขายในท้องตลาดแล้วแต่โดยมากก็หนีไม่พ้นข้อจำกัดเหล่านี้ จึงกลายเป็นที่มาของ UrbanX E-Bike Wheel นวัตกรรมที่จะเปลี่ยนให้จักรยานคันเดิมๆ กลายเป็นจักรยานไฟฟ้าคู่ใจ ภายในเวลาแค่ 1 นาที
จุดเริ่มต้นของ UrbanX คือการมองเห็นโอกาสของตลาดจักรยานไฟฟ้าที่ฉีกแนวออกไปจากเดิมให้มีความ innovative มากยิ่งขึ้น ซึ่ง อีริค โจว ผู้ก่อตั้งของ UrbanX กล่าวว่า ลูกค้าแต่ละคนที่เปลี่ยนจากจักรยานธรรมดามาเป็นจักรยานไฟฟ้า ต่างก็พบข้อจำกัดเดียวกันคือ พวกเขาต้องการจักรยานไฟฟ้าที่ตรงกับสไตล์การปั่นของตนเอง แต่ในตลาดยังไม่มีใครที่สามารถตอบโจทย์นี้ได้
ด้วยจุดเด่นของ UrbanX ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในท้องตลาดได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็น การเข้ากับจักรยานแทบทุกประเภทที่มีอยู่ในท้องตลาดตั้งแต่จักรยานแม่บ้าน จักรพยานพับ จักรยานบีเอ็มเอกซ์ จักรยานครุยเซอร์ จักรยานเสือหมอบ จักรยานเสือภูเขา และจักรยานไฮบริด เนื่องจากตัวของ UrbanX คือล้อหน้าจักรยาน ซึ่งพัฒนาขึ้นมาให้เข้ากับทุกขนาดของล้อจักรยานในตลาดตั้งแต่ 24-29.5 นิ้ว
สำหรับการติดตั้งซึ่งทางผู้พัฒนาเคลมว่าใช้เวลาแค่ 1 นาที ทำให้จักรยานคันโปรดกลายเป็นจักรยานไฟฟ้าได้ทันทีนั้น เพียงแค่ถอดล้อหน้าจักรยานคันเดิมออก ใส่ล้อสมาร์ทวีลของ UrbanX เข้าไป ใส่แบตเตอรี่ ติดตั้งคันเร่ง (อุปกรณ์เสริมพิเศษให้เลือกว่าจะติดตั้งหรือไม่) ต่อสายไฟ เท่านี้ก็ครบกระบวนการ โดยจักรยานตามท้องตลาดปัจจุบันใช้ระบบแกนปลดล็อคไวทำให้การถอดประกอบล้อหน้าเสร็จได้ภายในเวลาไม่เกิน 5-10 วินาที
โหมดการทำงานของจักรยานไฟฟ้า UrbanX จะทำงานอยู่ทั้งหมด 3 โหมดโดยใช้การสั่งงานผ่านสมาร์ทโฟนหรือผ่านได้แก่
1. Full Electirc Mode ไม่ต้องทำอะไรแค่นั่งให้สบายๆ บังคับทิศทางให้ดีก็พอ เพราะ UrbanX จะทำงานของมันอย่างเต็มรูปแบบในฐานะจักรยานไฟฟ้าที่วิ่งได้ถึง 32 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และวิ่งต่อเนื่องได้ในระยะทาง 48 กิโลเมตร
2. Traditional Bike Mode ที่ UrbanX จะทำหน้าที่เป็นแค่ล้อหน้าเท่านั้น ที่เหลือคือแรงคนปั่นล้วนๆ
3. Pedal Assist Mode หรือโหมดไฮบริดที่ UrbanX จะช่วยเสริมแรงในการปั่นที่สามารถปรับได้ถึง 3 ระดับจากการตั้งค่าผ่านแอพพลิเคชั่น เรียกว่าปั่นขึ้นดอยอินทนนท์ได้แบบไม่ต้องลิ้นห้อย โดยอาศัยเซ็นเซอร์วัดจำนวนรอบขาในการปั่นจากนั้นมอเตอร์จะทำงานให้หมุนในระดับเดียวกันทำให้ผู้ใช้สามารถปั่นได้เองโดยไม่ต้องออกแรง เป็นลูกเล่นที่ยังไม่มีในจักรยานไฟฟ้าทั่วไปตามท้องตลาด
นอกจากนี้ยังมีลูกเล่นอย่างการใช้เป็น power bank สำหรับชาร์จโทรศัพท์มือถือได้จากพอร์ต USB ที่ตัวแบตเตอรี่อีกด้วย เรียกว่าล้อเดียวทำได้หมดถ้าสดชื่น ที่สำคัญคือเรื่องของน้ำหนัก จักรยานไฟฟ้าทั่วไปตามท้องตลาด หรือจักรยานไฟฟ้าแบบดัดแปลงจะมีน้ำหนักมากพอสมควรเนื่องจากต้องเพิ่มน้ำหนักของแบตเตอรี่เข้าไปด้วยนอกจากน้ำหนักของรถ แต่ UrbanX นั้นทางผู้ผลิตเคลมว่ามีน้ำหนักที่เบาเนื่องจากต้องคำนึงถึงน้ำหนักของรถที่มีอยู่เดิมเพื่อลดการเสียสมรรถนะของรถเดิมให้ได้มากที่สุดโดยมีน้ำหนักเพียงแค่ 7 กิโลกรัมเท่านั้น (กรณีของจักรยานเสือหมอบที่ต้องอาศัยหลัก Aero Dynamic การเพิ่มน้ำหนักเข้ามามีผลทำให้ประสิทธิภาพของรถด้อยลง) ส่วนการเปลี่ยนกลับไปเป็นจักรยานธรรมดา ก็แค่ถอดล้อหน้าออก แล้วใส่ล้อเดิมกลับ ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ UrbanX ตอบโจทย์ของนักปั่นที่อยากเปลี่ยนมาลองจักรยานไฟฟ้าได้เป็นอย่างดี
ในประเทศไทยตลาดของจักรยานไฟฟ้าแม้จะมีแบรนด์ที่ครองตลาดอยู่ เช่น LA Bicycle หรือ ฮอนด้า แต่ก็ต้องยอมรับว่าราคาอยู่ในระดับสูงพอสมควร แม้จะมีผู้ประกอบการรายย่อยที่รับดัดแปลงจักรยานธรรมดาเป็นจักรไฟฟ้า แต่ก็ยังติดปัญหาขาดความคล่องตัวอยู่ไม่น้อย บางที ไอเดียจากผู้ประกอบการใน Kickstarter รายนี้ อาจทำให้ผู้ประกอบการร้านจักรยานในบ้านเราเห็นโอกาสมากขึ้นก็ได้
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี