เรื่อง : กองบรรณาธิการ
หนึ่งในปัญหาน่าปวดหัวสำหรับคนหนุ่มสาวที่อาศัยอยู่ในเมืองใหญ่ โดยเฉพาะในมหานครนิวยอร์ก คือการที่ไม่มีใครอยู่คอยรับพัสดุไปรษณีย์ที่ส่งมาให้ที่อพาร์ตเมนต์ และต้องเสียเวลาไปที่ที่ทำการไปรษณีย์เพื่อรับพัสดุนั้นภายหลัง ปัญหานี้เกิดขึ้นเช่นกันกับ Jesse Kaplan หนุ่มอเมริกันวัย 23 ปี หลังจากที่เขาย้ายจากบอสตันมาอาศัยอยู่ที่นิวยอร์กเมื่อ2 ปีก่อน และต้องเผชิญกับสลิปรายการพัสดุที่เขาไม่ได้รับเสียบอยู่ที่หน้าประตูอพาร์ตเมนต์ทุกวัน
หลังจากใช้เวลาวันหยุดหลายต่อหลายวีคเอนด์ในการไปต่อแถวเข้าคิวรับพัสดุที่ตกค้างที่ที่ทำการไปรษณีย์ท้องถิ่น เพียงเพื่อพบว่าพัสดุของเขาถูกส่งไปที่สาขาอื่นบ้าง หาไม่เจอบ้าง (หรือไม่ก็ทั้งสองอย่าง!) ปัญหาอันชวนปวดหัวนี้ กลับกลายเป็นโอกาสที่นำมาสู่ไอเดียธุรกิจเล็กๆ เมื่อ Jesse จุดประกายขึ้นว่า จะเป็นอย่างไร ถ้าหากว่ามีธุรกิจที่ให้บริการนำส่งพัสดุแบบถึงมือหน้าประตูบ้าน ในเวลาที่เจ้าของผู้ที่สั่งซื้อสินค้านั้นสะดวกรับ
จุดเริ่มต้น Parcel
คอนเซ็ปต์ของ Parcel คือ บริการจัดส่งสินค้าแบบดิลิเวอรี โดยที่ผู้ใช้จะต้องลงทะเบียนเพื่อรับบริการ จากนั้นจะได้รับที่อยู่ใหม่ ซึ่งเป็นที่อยู่หลักของบริษัทเพื่อใช้เป็นที่อยู่จัดส่งพัสดุแทน จุดที่พิเศษคือ ทางบริษัทจะมี “เลขที่อพาร์ตเมนต์” ที่เฉพาะเจาะจงให้กับลูกค้าแต่ละราย จากนั้นเมื่อมีพัสดุจัดส่งมาถึง Parcel จะเป็นตัวกลาง หรือ Third Party Service ในการจัดส่งพัสดุให้ถึงมือลูกค้าอีกทีหนึ่ง ซึ่งช่วยแก้ปัญหาอย่างมากให้กับชาวนิวยอร์กที่ทำงานยุ่งตลอดทั้งวัน และส่วนใหญ่ไม่ได้อาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์หรูหรา ที่จะมีคนเฝ้าประตูคอยเซ็นรับพัสดุให้เวลาที่เจ้าของห้องไม่อยู่ หรือมีห้องเก็บจดหมายหรือพัสดุที่ปลอดภัยเพียงพอ จึงช่วยตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่ชอบสั่งซื้อสินค้าออนไลน์อีกด้วย
โดยขั้นตอนการใช้บริการก็สะดวกง่ายดาย เมื่อผู้ใช้ลงทะเบียนในเว็บไซต์ของ Parcel แล้ว ก็สามารถเริ่มต้นช้อปปิ้งออนไลน์ได้อย่างหมดกังวล เพียงแค่กรอกที่อยู่สำหรับจัดส่งที่ทาง Parcel ให้ไว้ในเว็บช้อปปิ้งออนไลน์ ทันทีที่พัสดุมาถึงทาง Parcel ก็จะแจ้งผ่านข้อความให้ทราบ เพื่อให้ลูกค้าเลือกช่วงเวลาที่ต้องการรับสินค้า จากนั้นก็จะดำเนินการจัดส่งให้ภายในคืนนั้นทันที
การันตีถึงมือผู้รับแน่นอน
Jesse เล่าว่าในช่วงระยะแรกที่เริ่มต้นธุรกิจนั้นเขาเป็นผู้บริการจัดส่งพัสดุด้วยตัวเอง แต่ต่อมาเมื่อธุรกิจของเขาเริ่มขยายมากขึ้น เขาจึงตัดสินใจจ้างพนักงานเพิ่มขึ้น ซึ่งแน่นอนว่า จุดเด่นบริการของ Parcel นั้น คือ การจัดส่งในเวลาที่ลูกค้าอยู่บ้านจริงๆ โดยผู้ใช้บริการสามารถเลือกรับสินค้าได้ในเวลาที่สะดวก ตั้งแต่ 1 ทุ่มจนถึง 5 ทุ่ม โดยทาง Parcel จะให้บริการดิลิเวอรีนับตั้งแต่วันอาทิตย์ไปจนถึงวันศุกร์ ส่วนราคาค่าบริการนั้นอยู่ที่ 5 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อครั้ง โดยพัสดุนั้นจะต้องมีขนาดไม่เกิน 24 นิ้ว และน้ำหนักไม่เกิน 30 ปอนด์
ทั้งนี้ ข้อแตกต่างระหว่าง Parcel กับบริการจัดส่งพัสดุอื่นๆ อยู่ตรงที่ ทาง Parcel จะติดต่อกับลูกค้าโดยการส่งข้อความ หรือ Text Message เพราะ Jesse มองว่า คนส่วนใหญ่มักใช้โทรศัพท์สมาร์ตโฟนที่มีความคล่องตัว เขาจึงเลือกใช้วิธีการส่งข้อความหาลูกค้าโดยตรง แทนที่การใช้ Application เหมือนเช่น Apps ที่มีให้บริการอย่าง Handy และ Uber ซึ่งเขามองว่าเป็นปัญหา เนื่องจาก Apps เหล่านี้ จะใช้ผู้รับจ้างอิสระในการให้บริการขนส่งสินค้า ในขณะที่เขามีคนขับรถส่งพัสดุที่เป็นพนักงานบริษัทโดยตรง ซึ่งผ่านการฝึกฝนและมีการตรวจสอบประวัติและภูมิหลังอย่างถี่ถ้วน ทำให้ลูกค้าสามารถมั่นใจได้ว่าสิ่งของหรือพัสดุของพวกเขาจะได้รับการดูแลเป็นอย่างดี นอกจากนี้ พัสดุแต่ละชิ้นยังมีการรับประกันในการขนส่งให้สูงสุดถึง 100 ดอลลาร์ฯ อีกด้วย
ความสำเร็จแบบก้าวกระโดด
ในช่วงระยะเวลาเพียงแค่ 2 ปี ธุรกิจของ Parcel ได้เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ปีที่แล้วบริษัทได้เพิ่มเงินลงทุนกว่า 1 ล้านดอลลาร์ฯ ในการขยายธุรกิจ และได้รับความนิยมอย่างมากจากลูกค้าในย่านแมนฮัตตันและบรุกลินในนครนิวยอร์ก นับเป็นความสำเร็จอย่างงดงามสำหรับผู้ประกอบการอายุน้อยอย่าง Jesse แต่ใช่ว่าเขาจะเป็นมือใหม่ในการทำธุรกิจซะทีเดียว เพราะก่อนหน้านี้ เขาเคยบริหารและเป็นผู้ก่อตั้ง Cabot Caf? ร้านกาแฟ แกลเลอรีแสดงผลงานศิลปะ และ Social Space ที่ดำเนินการโดยนักศึกษามหาวิทยาลัย Harvard ในเมืองบอสตันที่เขาเคยศึกษาอยู่มาก่อน ซึ่งช่วยสร้างมุมมองในการทำธุรกิจให้กับเขาไม่น้อยเลยทีเดียว
โดยหลักการของ Parcel เชื่อว่าการจัดส่งบรรจุภัณฑ์หรือสินค้า ในกระบวนการส่งมอบควรจะประกอบไปด้วย ความสะดวกสบาย ความมีประสิทธิภาพและเชื่อถือได้ ซึ่งระบบที่ใช้งานง่ายและสร้างประสบการณ์ในการให้บริการที่น่าประทับใจมากที่สุด อย่างการส่งมอบถึงมือให้กับลูกค้าโดยทีมงานที่ตรงต่อเวลา รวมทั้งอัตราค่าบริการที่เป็นมิตร คือสิ่งที่ทำให้ Parcel สามารถแข่งขันกับธุรกิจผู้ให้บริการดิลิเวอรีรายอื่นๆ ในนิวยอร์กได้
อย่างไรก็ตาม ปฏิเสธไม่ได้ว่าความสำเร็จของ Parcel นั้น เกิดจากการคิดค้นบริการเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาให้กับลูกค้า (รวมถึงตัวผู้ก่อตั้งอย่าง Jesse เอง) ซึ่งหากเขาคิดไปแข่งกับผู้ให้บริการรายใหญ่ที่ได้เปรียบกว่า ทั้งทางด้านเงินทุนและเทคโนโลยีแล้ว ก็อาจยากที่จะอยู่รอดและเติบโตจนกลายเป็นหนึ่งในธุรกิจผู้ให้บริการ Local Delivery ท้องถิ่น ที่กลายเป็นขวัญใจของชาวนิวยอร์กได้เช่นทุกวันนี้
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี