เรื่อง กองบรรณาธิการ
ภาพ กฤษฎา ศิลปไชย
ในยุคที่ผู้บริโภคผันตัวเองสู่การเป็น Digital Consumer นั้น ทำให้พฤติกรรมการใช้ชีวิตในแง่มุมต่างๆ ของผู้คน ดูเหมือนว่าจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง โดยเฉพาะพฤติกรรมในการจับจ่ายใช้สอย การช้อปปิ้งบนหน้าจอสี่เหลี่ยมได้กลายเป็นทางเลือกใหม่สำหรับคนยุคนี้ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
หากดูจากตัวเลขที่ธนาคารกสิกรไทยเปิดเผยซึ่งได้ระบุไว้ว่า ปัจจุบันมีคนไทยซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากถึง 14.87 ล้านคน ในขณะที่ฟากฝั่งผู้ประกอบการ e-Commerce ไม่ว่าจะอยู่ในโซเชียลมีเดีย เว็บไซต์ หรือออนไลน์มาร์เก็ตเพลสต่างๆ คาดกันว่าน่าจะมีมากกว่า 500,000 รายด้วยกัน
จากสิ่งเหล่านี้เอง กลายเป็นโอกาสที่เกิดขึ้นจากการที่ผู้ประกอบการออนไลน์ ซึ่งนับวันยิ่งมีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ มีความจำเป็นต้องมองหาบริการสำหรับการขนส่งที่จะมาตอบโจทย์การดำเนินธุรกิจของพวกเขาได้ดียิ่งขึ้น จึงทำให้มีผู้ประกอบการโลจิสติกส์จำนวนไม่น้อยที่มองเห็นโอกาสดังกล่าว พากันกระโดดเข้าสู่สมรภูมิตลาดการขนส่งสินค้าออนไลน์
แต่แม้จะมีโอกาสมหาศาลรออยู่ตรงหน้า ก็ใช่ว่าทุกคนจะเป็นผู้ชนะทั้งหมด ฉะนั้น จึงจำเป็นต้องรูปแบบหนุนให้ธุรกิจส่งด่วน สามารถครองใจลูกค้าและประสบความสำเร็จได้ โดย ภาวิกา ปาลซิงห์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท อัลฟ่า เพอร์ฟอร์มานซ์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า หนึ่งในจุดเด่นของ alphaFAST คือมีบริการในเรื่องของการเก็บเงินปลายทาง ซึ่งถือว่าเป็นเทรนด์ที่นิยมอย่างมากสำหรับลูกค้าคนไทยขณะนี้ เนื่องจากยังมีบางส่วนที่ไม่กล้าใช้บัตรเครดิต
ขณะเดียวกันการเก็บเงินปลายทาง ยังเป็นสิ่งที่ง่ายสำหรับผู้ซื้อด้วย คือหลังจากสั่งซื้อเสร็จ วันถัดไปหรืออีกไม่กี่วันก็จะมีสินค้ามาส่ง จากนั้นค่อยจ่ายเงินให้กับพนักงานที่มาส่ง โดยทาง alphaFAST จะทำการโอนให้กับทางร้านค้าภายใน 48 ชั่วโมง
ทั้งนี้ทั้งนั้น เพื่อความเป็นมาตรฐาน alphaFAST จะมี Standard Price แสดงอยู่บนเว็บไซต์ทั้งหมด เรียกได้ว่า ด้วยบริการดังกล่าว ทำให้มีผู้ประกอบการออนไลน์หันมาใช้บริการกับ alphaFAST มากยิ่งขึ้น เพราะเรื่องของการเก็บเงินปลายทาง เป็นความต้องการของผู้บริโภค เพราะเขาจะมีความมั่นใจในการจ่ายเงินในแบบมือถึงมือมากกว่าผ่านระบบ Internet Payment นับเป็นอีกบริการที่ตอบโจทย์ความสะดวกให้กับผู้ประกอบการออนไลน์ได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ สิ่งสำคัญในธุรกิจนี้ คือ เรื่องของบริการ ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ alphaFAST มุ่งเน้นมาโดยตลอด และคิดอยู่เสมอว่าจะทำอย่างไรให้ผู้ประกอบการหรือเจ้าของธุรกิจออนไลน์ สามารถที่จะขายของได้ง่ายขึ้นและมากขึ้น
ทั้งนี้ ด้วยรูปแบบบริการรับสินค้าถึงหน้าบ้าน เชื่อว่าเป็นสิ่งที่ช่วยทำให้ผู้ประกอบการสามารถประหยัดเวลา โดยที่ไม่ต้องออกไปส่งด้วยตัวเอง อีกทั้งยังตอบโจทย์ในเรื่องของความเร็ว ด้วยรูปแบบ Next Day Service คือ รับวันนี้ ส่งพรุ่งนี้ รวมถึงยังมีระบบการ Pre Call หาลูกค้าก่อนส่งว่า สะดวกรับสินค้าหรือไม่ หากวันนี้ไม่สะดวก สามารถเลื่อนไปส่งพรุ่งนี้ได้ ซึ่งตรงจุดนี้ผู้ประกอบการไม่ต้องมานั่งประสานงานเอง เพราะทาง alphaFAST จะช่วยเป็นตัวกลางประสานงานให้ เหล่านี้คือเรื่องของบริการที่จะช่วยให้ร้านค้าออนไลน์เพิ่มโอกาสสร้างยอดขายได้มากขึ้น
นอกเหนือจากบริการแล้ว เรื่องของราคาก็เป็นอีกปัจจัยที่จะทำให้ผู้ประกอบการตัดสินใจเลือกใช้บริการหรือไม่ เนื่องด้วยต้นทุนเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการค่อนข้างให้ความสำคัญ โดยเรื่องของราคานั้น alphaFAST จะบริการด้วยราคาที่ค่อนข้างถูก เพื่อช่วยผู้ประกอบการลดต้นทุน เพราะเมื่อลดต้นทุนได้ก็สามารถแข่งได้ และจะนำไปสู่การเพิ่มยอดขายของเขาได้ในที่สุด
ทั้งนี้ราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ 35 บาท โดยจะวัดจากขนาดของกล่อง (กว้าง + ยาว + สูง) หากขนาดกล่องใหญ่ขึ้น ราคาก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ปัจจุบันสามารถรับขนาดกล่องใหญ่สุดอยู่ที่ 72 เซนติเมตร โดยพนักงานของ alphaFAST จะเข้าไปช่วยวัดขนาดให้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น น้ำหนักต้องไม่เกิน 3 กิโลกรัมต่อกล่อง สำหรับพื้นที่ให้บริการนั้นจะครอบคลุมใน 4 จังหวัด คือ กรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ ขณะนี้ยังไม่มีแผนที่จะขยายไปยังจังหวัดอื่น เพราะต้องการที่จะโฟกัสอยู่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑลก่อน เพื่อจะให้บริการแก่ลูกค้าได้อย่างดีที่สุด
จริงๆ เป้าหมายของ alphaFAST จะเน้นเรื่อง Service มากๆ เป็นหัวใจหลักเลยก็ว่าได้ แม้ให้ราคาถูก แต่ถ้า Service ไม่ดีก็ไม่มีใครใช้หรอก ฉะนั้นกลับมาที่เรื่อง Service คือสามารถไปรับจากร้านค้าได้ทุกคน ทุกวัน ตามที่เขาต้องการ และต้องโทรศัพท์หาลูกค้าของเขาก่อนที่จะไปส่ง
สมมุติว่าถ้าส่งไม่ได้ ก็จะเก็บของไว้ให้และส่งในวันถัดไป โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ถ้าลูกค้าปฏิเสธหรือส่งของไม่ได้จริงๆ ก็จะส่งคืนร้านค้า โดยที่ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเช่นกัน ส่วนเรื่องราคาถูก ถามว่าคุ้มไหม คิดว่าคุ้ม เพราะถ้าร้านค้าส่งของได้เยอะขึ้น alphaFAST ก็โตขึ้นด้วย บริษัทเน้นที่ปริมาณ ตามความคิด คือทำยังไงก็ได้ให้ร้านค้าขายได้มากขึ้น เขาก็จะยิ่งกลับมาใช้บริการ alphaFAST มากขึ้น คือ Win-Win กันทั้งคู่
ธุรกิจโลจิสติกส์ไม่ค่อยมีอะไรใหม่ๆ หรอก มันก็เหมือนเดิม เพียงแต่ทำอย่างไรก็ตามให้ส่งถูกถึงที่หมาย ส่งถึงมือคนที่สั่งจริงๆ ไม่ใช่ว่าส่งหาใครก็ได้ แค่ Service ให้ดี พนักงานต้องยิ้ม พูดจาดี และที่สำคัญส่งให้เร็ว สำหรับธุรกิจโลจิสติกส์ทำได้ 3 อย่างนี้ก็เก่งแล้ว
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี
