เรื่อง : ยุวดี ศรีภุมมา
ภาพ : กฤษฎา ศิลปไชย
ถ้าหากจะพูดถึงหัวอกของคนที่รักสัตว์ จะเห็นได้ว่าทุกวันนี้การดูแลสัตว์เลี้ยงของพวกเขานั้น ไม่ต่างอะไรจากการเลี้ยงดูลูกน้อยหรือสมาชิกในครอบครัว ยิ่งในเวลานี้ด้วยวิถีชีวิตของคนเมืองซึ่งเริ่มเปลี่ยนไป หลายคนเลือกที่จะชีวิตอยู่คนเดียว โดยที่มีเลี้ยงสัตว์เป็นเพื่อนคลายเหงา ทำให้มีหลายๆ แบรนด์หันมาผลิตสินค้าเพื่อตอบโจทย์คนรักสัตว์มากขึ้น และหนึ่งในนั้นคือ แบรนด์ Barketek ของใช้สัตว์เลี้ยงที่เหมาะสำหรับเจ้าของที่รักในงานดีไซน์แบบเก๋ไก๋
เจ้าของแบรนด์ผู้ริเริ่มการนำเอางานดีไซน์มาผสานเข้ากับของใช้สัตว์เลี้ยง นั่นคือ “ปิยณัฐ รัตนวงศาโรจน์” สถาปนิกหนุ่มผู้ที่ได้เล็งเห็นว่า ที่ผ่านมาของใช้สัตว์เลี้ยงส่วนใหญ่มักจะไม่มีดีไซน์ บ้างก็เป็นพลาสติก ทำให้เจ้าของสัตว์เลี้ยงผู้ที่ซีเรียสเรื่องการตกแต่งบ้านมักจะนำเอาข้าวของสัตว์เลี้ยงไปเก็บไว้หลังบ้าน ด้วยเหตุผลเดียวที่ว่าไม่กลมกลืนไปกับเฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่ภายในบ้านนั่นเอง
“ผมมองว่าเทรนด์ของการเลี้ยงสัตว์กำลังเติบโต ประกอบกับตัวผมเป็นสถาปนิก พอเราเข้าไปออกแบบบ้านลูกค้าจะเห็นว่าส่วนใหญ่บ้านที่เขามีดีไซน์ จะไม่เอาข้าวของสัตว์เลี้ยงมาไว้ในตัวบ้าน เพราะไม่กลมกลืน สัตว์เลี้ยงก็จะถูกแยกออกไปอยู่ในครัวบ้าง ข้างหลังบ้านบ้าง เราเลยเห็นโอกาสของตรงนี้ จึงเกิดไอเดียขึ้นมาว่า น่าจะมีของใช้สัตว์เลี้ยงที่สามารถกลายเป็นเฟอร์นิเจอร์ได้ด้วย ที่เข้าไปอยู่ในตัวบ้านแล้วไม่แปลกแตกต่าง ซึ่งตอนนั้นตลาดยังไม่มีสินค้าแบบนี้ เราก็เริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2556”
นอกจากตัวสินค้าของ Barketek จะมีดีไซน์เก๋ไก๋ เรียบง่าย เข้ากับบ้านได้ทุกสไตล์แล้ว ยังมีจุดเด่นอยู่ที่รองรับการใช้งานของเจ้าสัตว์เลี้ยงแสนรักได้อย่างดีเยี่ยม แถมยังช่วยในเรื่องของสุขภาพได้อีกด้วย เนื่องจากตัวของปิยณัฐเองก็เป็นหนึ่งในผู้รักสัตว์และได้เลี้ยงสุนัขเพื่อประกวด ทำให้เขาเข้าใจสิ่งที่เจ้าของและสัตว์เลี้ยงต้องการได้เป็นอย่างดี
“ด้วยความที่เราเลี้ยงสัตว์แบบซีเรียสอยู่แล้ว เราจะศึกษาและเห็นพฤติกรรมของสุนัขที่เราเลี้ยงว่า เขาเป็นอย่างไร ต้องการอะไร อะไรที่ดีสำหรับเขา แล้วเราก็อ่าน Research เยอะมาก เอามาพัฒนาเป็นสินค้า อย่างชามข้าวที่เราออกแบบให้มีฐานยกสูงขึ้นมา โดยใช้ไม้สีอ่อนเป็นฐาน ส่วนชามเป็นสเตนเลส ซึ่งการที่ยกสูงแบบนี้ดีต่อสุนัขและแมว เพราะเวลาที่สัตว์เลี้ยงเราก้มลงไปกินมากๆ ไม่ดีต่อสุขภาพ บางตัวอาจเดินขาเป๋ไปเลย หรือบางตัวที่หลอดลมตีบก็ก้มลงไปกินไม่ได้ ที่ยกแบบนี้จะสอดคล้องกับสรีระของสัตว์มากกว่า ล่าสุดเราได้ออกแบบชามข้าวกันมด เพราะส่วนใหญ่มดจะชอบขึ้นจานข้าวของแมว เวลาเจ้าของเทข้าวให้แมว จะเทแล้วทิ้งไว้ทั้งวัน ไม่เหมือนสุนัข จะกินหมดทีเดียว เราเลยทำเป็นชามเซรามิกสองชั้น มีช่องว่างตรงกลางสามารถใส่น้ำได้แล้วก็มีดีไซน์ไม่เหมือนใคร”
นอกจากชามข้าวที่มีดีไซน์เก๋ ยังมีสินค้าประเภทอื่นที่ตอบโจทย์ทั้งเจ้าของและสัตว์เลี้ยง เรียกได้ว่าซื้อหนึ่งชิ้นแต่ใช้งานร่วมกันได้อย่างสินค้าที่เรียกว่า “สแต็ค” ที่ได้รับรางวัล Demark ปี 2558 เป็นการผสมผสานระหว่างเปลของสัตว์เลี้ยงกับโต๊ะวางของที่มีลิ้นชัก ซึ่งสามารถอยู่ด้วยกันได้อย่างกลมกลืนภายในบ้าน เหมาะสำหรับคนเลี้ยงสัตว์ที่รักการตกแต่งบ้าน และยังสามารถแชร์พื้นที่กับสัตว์เลี้ยงของพวกเขาได้อย่างลงตัว
สำหรับกลุ่มลูกค้าของ Barketek ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบงานดีไซน์และใส่ใจเรื่องของการตกแต่งบ้าน อีกทั้งยังต้องรักสัตว์พร้อมที่จะจ่ายเงินให้แก่สินค้าที่ออกมาเพื่อรองรับสัตว์เลี้ยงของพวกเขา นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มลูกค้าต่างประเทศที่ให้ความสนใจในแบรนด์ Barketek อีกเป็นจำนวนมาก
“ตั้งแต่ปลายปีที่แล้วเราได้ไปออกบู๊ธที่ต่างประเทศ มีที่ญี่ปุ่นกับเกาหลี ทำให้เราเริ่มมีกลุ่มลูกค้าในต่างประเทศมากขึ้น ซึ่งตอนนี้เราเลยพยายามเน้นส่งออกมากกว่าในประเทศ เพราะขายได้ปริมาณมากกว่าขายทีละชิ้นในประเทศไทย”
เหตุผลที่ต่างประเทศให้ความสนใจในสินค้าของ Barketek นั่นคือ ต่างประเทศให้ความสำคัญกับการเลี้ยงสัตว์เป็นอย่างมาก ทำให้พฤติกรรมผู้ที่เลี้ยงสัตว์ของต่างประเทศกับในประเทศมีความแตกต่างกัน เช่น การให้อาหาร
“เราจะเห็นได้ชัดเลยว่า ต่างประเทศจะให้สัตว์เลี้ยงกินอาหารเม็ดอย่างเดียว แต่คนไทยยังมีให้กินอาหารเปียกอยู่บ้าง เพราะต่างประเทศเขาจะรู้ว่าเลี้ยงอย่างไรถึงจะถูกวิธี อีกอย่างหนึ่งคือราคาสัตว์เลี้ยงในต่างประเทศสูงมาก อย่างญี่ปุ่น แมวหนึ่งตัวราคา 60,000-70,000 ยังไม่รวมค่าวัคซีน เขาจึงใส่ใจการเลี้ยงรวมไปถึงของใช้ของสัตว์เลี้ยงมากกว่า”
ด้านปัญหาและอุปสรรคของ Barketek ส่วนใหญ่คือเรื่องของราคา อาจเป็นเพราะราคาที่สูง รวมไปถึงคนเลี้ยงสัตว์ส่วนใหญ่ในบ้านเรายังไม่ได้ซีเรียสเรื่องของใช้สัตว์เลี้ยงมากนัก
“หลักๆ เลยคือ เรื่องราคา ทำให้ตลาดเราแคบลง อีกอย่างคือสินค้าเราเป็นสินค้าที่ใช้ได้นาน ทำให้การซื้อช้ำเกิดยาก ไม่ว่าเราจะสร้าง Brand Loyalty ดีขนาดไหนก็ตาม ปัญหาอีกอย่างหนึ่งคือผมเอง ที่ไม่มีประสบการณ์ด้านของการทำธุรกิจ เราเลยต้องศึกษาไปเรื่อยๆ ค่อยๆ ปรับ ตอนนี้ก็ยังศึกษาอยู่”
ส่วนเป้าหมายในอนาคต ปิยณัฐตั้งใจที่จะแก้ไขปัญหาของแบรนด์ด้วยการเพิ่มกลุ่มสินค้าที่ลูกค้าสามารถกลับมาซื้อซ้ำได้อย่างขนมสำหรับสัตว์เลี้ยง เพราะตลาดค่อนข้างใหญ่พอสมควร นอกจากนี้ ยังจะผลักดันให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้ามากยิ่งขึ้นโดยเน้นช่องทางออนไลน์ การออกงานแฟร์และออกบู๊ธที่ต่างประเทศ
เพียงแค่การมองเห็นช่องว่าง คิดให้แตกต่าง ใส่ลูกเล่นใหม่ๆ ลงไป ก็กลายเป็นสินค้าที่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่ม อีกทั้งยังถูกอกถูกใจทั้งคนรักสัตว์ในไทยและต่างประเทศอีกด้วย
Key Success
• ต้องมี Passion ในงานหรือธุรกิจที่ทำ
• ใช้การดีไซน์เข้ามาช่วยแก้ไขปัญหา
• ใช้ช่องว่างในตลาดคิดค้นสิ่งใหม่ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า
Barketek
www.barketek.com
LINE ID : barketek