เรื่อง กองบรรณาธิการ
ภาพ กฤษฎา ศิลปไชย
สนามจำลองจักรยานเสือภูเขาแห่งแรกใจกลางกรุงเทพมหานคร "Peppermint Bike Park" ถือเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ยอดนิยมของบรรดาสิงห์นักปั่น ที่นอกจากจะจัดสรรพื้นที่ให้คนเมืองได้ปั่นจักรยานอย่างปลอดภัยแล้ว ยังเป็นคอมมูนิตี้ขนาดย่อมที่ทำให้หนุ่มสาวผู้มีใจรักในสิ่งเดียวกัน ได้มาพบปะแลกเปลี่ยนความรู้ หรือนัดกันออกทริปต่างจังหวัด เป็นกลุ่มแก๊งใหม่ก็ได้เช่นกัน
แนวคิดของสนามแห่งนี้ เป็นของ สุวรรณา เอี่ยมพิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เบอร์แทรมเคมิคอล (1982) จำกัด ผู้ผลิตยาหม่องภายใต้แบรนด์ “เซียงเพียว” และ “เป๊ปเปอร์มิ้นท์ ฟิลด์” สำหรับการแตกไลน์ธุรกิจของเธอครั้งนี้ เริ่มต้นมาจากความที่เธอรักในการออกกำลังกายมาตั้งแต่เด็ก ประกอบกับมองเห็นโอกาสจากความกังวลในเรื่องอุบัติเหตุที่มักเห็นอยู่บ่อยครั้งบนหน้าหนังสือพิมพ์ ซึ่งคร่าชีวิตนักปั่นไปแล้วหลายราย ดังนั้น การมีสถานที่เพื่อให้พวกเขาได้ปั่นจักรยานอย่างอุ่นใจ จึงเป็นอีกความตั้งใจที่ทำให้เกิด Peppermint Bike Park ขึ้นมา
“ด้วยความที่รักในการออกกำลังกายมาตั้งแต่เด็ก พอโตขึ้นมาก็อยากถ่ายทอดเรื่องของสุขภาพไปยังคนอื่นๆด้วยเช่นกัน ซึ่งเราเริ่มต้นจากจุดเล็กๆ คือพนักงานในบริษัทก่อน โดยกีฬาที่สามารถเล่นร่วมกันได้ดีที่สุดคือ การปั่นจักรยาน จำได้ว่าตอนนั้นมีนโยบายรถคันแรกออกมา จึงนำนโยบายนั้นมาประยุกต์ เป็นจักรยานคันแรกให้เงินพนักงานไปซื้อแล้วผ่อนชำระให้ภายใน 1 ปี เพื่อให้เขามีจักรยานดีๆ ไว้สำหรับปั่นไปออกทริปด้วยกัน จุดเปลี่ยนที่ทำให้เราเปิดพาร์คแห่งนี้ขึ้นมา ก็เนื่องจากอุบัติเหตุบนท้องถนน ประกอบกับน้องๆ เริ่มไม่มีที่สำหรับปั่นจักรยาน เราจึงนำที่ดินที่มีอยู่ มาต่อยอดให้เกิดประโยชน์ กระทั่งออกมาเป็นสนามจำลองจักรยานเสือภูเขาแห่งนี้ ซึ่งต้องบอกเลยว่าจังหวะเปิดสนาม ประจวบเหมาะกับกระแสความนิยมของคนเมืองพอดี ทำให้สนามนี้ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วในเวลาเพียงไม่กี่เดือน”
โดยสนามปั่นจักรยานแห่งนี้ ไม่ได้มีไว้เฉพาะนักปั่นมือสมัครเล่นที่เน้นการออกกำลังกายเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงกลุ่มนักปั่นน่องเหล็กมืออาชีพ เพราะภายในสวนแห่งนี้มีเลนจักรยานแบ่งไว้อย่างชัดเจน พร้อมกับความท้าทายรอบสนามที่เหล่านักปั่นเสือภูเขาจะต้องชอบ
“กลุ่มเป้าหมายของเราจะมีทั้งมือสมัครเล่นและมืออาชีพ ซึ่งโดยส่วนใหญ่ก็จะเป็นกลุ่มคนที่ทำงานในเมือง โดยในกลุ่มมือสมัครเล่นที่เน้นปั่นเพื่อออกกำลังกาย จะมีเลนทางเรียบระยะทาง 500 เมตรไว้บริการ ซึ่งเหมาะสำหรับ Young Family หรือ พ่อ แม่ ลูกที่เริ่มปั่นจักรยานได้แล้ว มาทำกิจกรรมร่วมกันในช่วงเย็นหรือทุกวันหยุดสุดสัปดาห์ ซึ่งทัศนคติของพ่อแม่กลุ่มนี้ เขาจะปลูกฝังให้ลูกเห็นความสำคัญของกีฬา มากกว่าการหมกตัวดูโทรทัศน์หรือเล่นเกมเพียงอย่างเดียว สนามของเราจึงได้กลายเป็นทางเลือกสำหรับครอบครัวด้วย นอกจากนั้น ก็ยังมีพื้นที่สำหรับมืออาชีพ หรือผู้ที่สามารถควบคุม และเข้าใจจังหวะจักรยานของตน ซึ่งจะมีทางเสือภูเขาไว้ให้บริการระยะทางกว่า 2 กิโลเมตร ประกอบไปด้วย ทางไม้ลาดชัน เนิน 13 ลูกคลื่น ทางหิน ม้าหมอนพยศ โค้งผีเสื้อ โค้งวัดใจ สะพานขาด และอื่นๆ อีกมากมาย เตรียมไว้สำหรับท้าทายนักปั่นมืออาชีพโดยเฉพาะ”
นอกจากนั้น อีกหนึ่งความตั้งใจที่ Peppermint Bike Park ตั้งใจจะหยิบยกมาสู่สังคมเมือง ก็คือการนำธรรมชาติให้มาใกล้ชิดกับพวกเขามากยิ่งขึ้น เพราะสุวรรณามีความเชื่อว่าธรรมชาติคือ สิ่งบ่มเพาะจังหวะชีวิตของคนเมืองให้ช้าลง และเมื่อทุกสิ่งไม่ต้องเร่งรีบ ไม่ต้องแข่งขันกับเวลา ก็จะเป็นหนทางแห่งการพักผ่อนร่างกายและจิตใจได้ดีที่สุด
“เราเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับธรรมชาติมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว เพราะสิ่งแวดล้อมเหล่านี้ไม่ได้มีราคาแพง จะมีก็แต่ในประเทศที่ไม่เจริญ ที่ธรรมชาติมีไว้สำหรับคนรวยเท่านั้น ซึ่งเรามองว่ามันไม่แฟร์ จึงเป็นเหตุให้ Peppermint Bike Park ปลูกสร้างธรรมชาติให้อยู่ร่วมกับเลนจักรยานและเส้นทางวิบาก เพื่อให้คนเมืองได้เข้าถึงความเป็นสีเขียว ซึ่งจะมีส่วนช่วยอย่างมาก ให้คนที่มาเยือนได้เติมทั้งแรงใจและแรงกาย เรียกได้ว่าครบสูตรสำหรับผู้ที่รักสุขภาพเป็นที่หนึ่ง”
เรียกได้ว่าเป็นธุรกิจที่เติบโตตามกระแสปั่นจักรยานอย่างแท้จริง จะเห็นได้จากการเปิดตัวเพียงไม่กี่เดือนเท่านั้น แต่ Peppermint Bike Park กลับคลาคล่ำไปด้วยนักปั่นทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เด็กเล็กและวัยรุ่น ที่แวะเวียนเข้ามาสัมผัสประสบการณ์ และรับความสนุกอย่างปลอดภัย โดยไม่ต้องไปเสี่ยงอยู่บนท้องถนนอีกต่อไป
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี