คุ้นหูกันดีกับชื่อของ LA Bicycle ที่มีการโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อออกมาให้เห็นอย่างต่อเนื่อง สิ่งหนึ่งที่เห็นเกี่ยวกับ LA ได้อย่างชัดเจน คือการก้าวตามกระแสที่ผันเปลี่ยนอย่างรวดเร็วเสมอโดยไม่หยุดอยู่กับที่ และนี่จึงทำให้จักรยานแบรนด์นี้ยังตอบโจทย์ผู้บริโภคได้ตลอดเวลา
สุรสิทธิ์ ติยะวัชรพงศ์ ประธารกรรมการบริหาร บริษัท แอล เอ ไบซิเคิ้ล (ประเทศไทย) จำกัด ได้เล่าให้ฟังถึงจุดเริ่มต้นจากในสมัยก่อนว่าแต่เดิมได้ทำธุรกิจสิ่งทอ ซึ่งในปัจจุบันคงยังทำอยู่ ทำให้มีองค์ความรู้เรื่องสี การฟอกย้อม เส้นด้าย จนมาได้เจอกับคนไต้หวันที่อยากทำธุรกิจในเมืองไทย ซึ่งมีความรู้ด้านจักรยาน จึงเริ่มต้นจากการทำธุรกิจผลิตจักรยานแบบ OEM ส่งออก 100 เปอร์เซ็นต์จนมาถึงช่วงฟองสบู่แตก หุ้นส่วนชาวไต้หวันถอนตัว สุรสิทธิ์ยังคงกัดฟันสู้ต่อ และริเริ่มอยากสร้างแบรนด์เพื่อหันมาจับตลาดในประเทศ จึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นของ LA Bicycle นับแต่นั้นเป็นต้นมา
“ช่วงที่เริ่มสร้างแบรนด์ เรามองหาคนที่จะเข้ามาเป็นพนักงาน มีคนที่อยู่ในวงการจักรยานมาสมัคร ผมไม่รับเลย ผมเลือกคนที่ไม่มีความรู้เรื่องจักรยาน เพราะว่าพวกเขาจะสอนง่าย ไม่อีโก้ เราเริ่มจากให้คนออกไปสำรวจตลาดก่อน ทำแผนที่ไว้เลยร้านไหนขายจักรยานบ้าง เราไม่ใช้กลยุทธ์ขายราคาถูกเป็นตัวนำ แต่เราใช้สินค้าที่ดี มีมาตรฐานของ EU จากที่เราเป็นผู้ผลิตเพื่อส่งออกมาก่อน ถึงแม้ว่าแบรนด์เราเริ่มต้นทำธุรกิจในช่วงที่เกิดวิกฤต แต่เรายอมปล่อยเครดิตให้ร้านค้า เชื่อไหมว่าการที่เราทำแบบนี้ เขาจะจำเราไปตลอด เพราะรู้สึกว่าเราเชื่อถือเขาจริงๆ”
นอกจากนี้ สุรสิทธิ์ยังมีแนวคิดที่ว่า คนที่ทำธุรกิจเหมือนกัน ไม่จำเป็นต้องเป็นศัตรูกัน แต่สามารถเป็นพันธมิตรกันได้ เพราะคู่แข่งจริงๆ คือตนเอง ด้วยเหตุนี้ ทำให้ LA Bicycle พยายามแข่งขันกับตัวเองมาโดยตลอด และยังคงมีการผุดไลน์สินค้าใหม่ออกมาอย่างสม่ำเสมอ พัฒนาจากจักรยานแม่บ้าน สู่ LA E-Ride ที่ยกระดับมาตรฐานจักรยาน ด้วยเทคโนโลยีจักรยานไฟฟ้าอัจฉริยะ ผู้ขี่สามารถติดตั้งโทรศัพท์ Smart Phone ในขณะขี่เพื่อเชื่อมต่อข้อมูล นอกจากนี้ ยังมีแบรนด์จักรยาน Infinite เพื่อตอบโจทย์ผู้ขี่จักรยานแบบ HI-ENDED อีกด้วย
“นวัตกรรมใหม่ คำนี้เขียนง่าย ฟังง่าย แต่ว่าสุดท้ายเราจะเข้าใจมันจริงหรือเปล่า ทุกวันนี้ เราพยายามพัฒนาตนเองตลอดเวลา วันไหนที่ไม่พัฒนา วันนั้นคือเราเริ่มถอยหลังแล้ว เมื่อ 4 ปีที่แล้วผมทำแบรนด์ Infinite จักรยานคันละหลายหมื่นไปจนถึงหลักแสน คนถามว่าทำไมต้องซื้อ คนไทยทำจะเชื่อถือได้หรือเปล่า เราต้องตอบเขาให้ได้ว่า ทำไมเขาต้องซื้อของคุณ ราคาขนาดนี้มีดีอะไร ต้องพิสูจน์ให้เห็น อย่าง Infinite คนซื้อเขาไม่แคร์เรื่องราคา แคร์แค่ว่าคุณภาพดีไหม รูปทรงสวยงาม ลู่ลมหรือเปล่า เราไม่โฆษณาแต่เราสร้างทีมแข่งขึ้นมาเลย โดยใช้จักรยานของเราไปแข่งขัน และก็ได้รางวัลมาทั้งที่ฟิลิปปินส์และอินโดนีเซีย จะเห็นว่าเราไม่โฆษณา แต่เราเลือกที่จะทำให้เห็น ทำให้มั่นใจว่าสินค้าเราดีจริง”
นอกจากนี้ อีกหนึ่งความได้เปรียบของ LA นั่นคือประสบการณ์ในธุรกิจสิ่งทอ จากการที่เคยทำส่งออกมาก่อนของสุรสิทธิ์ จึงได้มีการประยุกต์เอาความรู้ในเรื่องสี และแฟชั่นต่างๆ มาปรับใช้และพัฒนาให้ LA Bicycle เป็นจักรยานที่มีความแตกต่างทั้งรูปแบบและสีสัน เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ๆ ให้กับผู้บริโภค
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี