ในยุคที่คนหันมาให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพกันมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องของอาหารการกินเป็นสิ่งที่ผู้คนใส่ใจกันมากเป็นพิเศษ รู้หรือไม่ว่า แมลงนับเป็นสัตว์ชนิดหนึ่งที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่ดีต่อร่างกายโดยเฉพาะด้วง แต่ด้วยรูปร่างหน้าตาของแมลงเหล่านี้อาจทำให้ใครหลายคนส่ายหน้าไม่กล้ารับประทาน
ด้วยเหตุนี้เองที่ทำให้ เซโก ฟาร์มเกิดปิ๊งไอเดียนำเอาด้วงสาคูมาแปรรูปให้กลายเป็นแคปซูลอาหารเสริมโปรตีน ที่ให้ประโยชน์ต่อสุขภาพของผู้บริโภคเป็นอย่างยิ่ง จนนำมาสู่การได้รับรางวัลโดดเด่นด้านผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ
ชานนท์ หนูเพชร เจ้าของเซโก ฟาร์ม ในจังหวัดยะลาผู้คิดริเริ่มนวัตกรรมในการนำเอาตัวด้วงสาคูมาแปรรูปได้เล่าถึงจุดเริ่มต้นว่า ด้วงสาคูเป็นแมลงในท้องถิ่นภาคใต้ที่ให้โปรตีนสูง ไขมันต่ำ และยังมีไฟเบอร์สูงอีกหาก
ขณะเดียวกันด้วยตระหนักถึงความสำคัญของต้นสาคูที่มีคุณค่า เพราะสามารถใช้ประโยชน์ได้ตั้งแต่ลำต้นไปจนถึงใบในการนำเอาไปทำเป็นอาหารเลี้ยงด้วง จึงมีการกระตุ้นให้ชาวบ้านริเริ่มเลี้ยงด้วงสาคู ไปพร้อมๆ กับการปลูกต้นสาคูและนำมาขายให้แก่เซโก ฟาร์มเพื่อเป็นการสร้างรายได้ให้กับชุมชน
“ในพื้นที่มีต้นสาคูอยู่แล้ว เพียงแต่เราเข้าไปช่วยให้ความรู้กับชาวบ้านว่าต้องปลูกอย่างไร ปกติต้นสาคูจะใช้เวลา 10-15 ปีกว่าจะแตกเขากวางหรือมีแป้งสาคูให้ได้ใช้ ซึ่งนานเกินไป เราจึงศึกษาและปลูกพืชทดแทนต้นสาคูเรียกว่า สาคูแอร์โรว์รูตเป็นวิธีการปลูกแบบออร์แกนิก ไม่มีการใช้สารเคมี ทุกอย่างเป็นวิถีธรรมชาติ”
“พอเราได้ต้นสาคูที่เป็นออร์แกนิกก็จะนำมาบดเพื่อใช้เป็นอาหารเลี้ยงด้วง และด้วงสาคูของเราก็จะกลายเป็นออร์แกนิก นอกจากนี้ การเลี้ยงด้วงของเรายังทำในระบบฟาร์มปิด คือการเลี้ยงในกะละมัง ซึ่งมีที่ปิดอย่างมิดชิด พร้อมกับมีมุ้งคลุมอีกหนึ่งชั้นเพื่อไม่ให้แมลงป่าเข้าไป”
ถึงแม้ด้วงสาคูจากเซโก ฟาร์มจะผ่านกระบวนการเลี้ยงแบบออร์แกนิกสามารถนำไปรับประทานได้ทั้งตัว ไม่ว่าจะทอดหรือนึ่ง แต่คนบางส่วนยังยึดติดกับภาพลักษณ์ของแมลงจนไม่กล้าลอง ทั้งที่ความจริงแล้วตัวด้วงเองมีประโยชน์ต่อร่างกายมหาศาล
จะเห็นได้จากการที่องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติเชิญชวนให้คนหันมาบริโภคแมลงเพราะแมลงจะเป็นแหล่งอาหารในอนาคต ทำให้ชานนท์เกิดไอเดียแปรรูปด้วงสาคูให้กลายเป็นแคปซูลอาหารเสริมโปรตีนจากแมลงด้วงสาคูออร์แกนิก 100 เปอร์เซ็นต์ ที่นอกจากจะทำให้รับประทานได้ง่ายขึ้นแล้วยังคงไว้ด้วยสารอาหารครบครัน
“อะไรก็ตามที่เป็นเรื่องของสุขภาพ เราจะต้องทำให้มีมาตรฐานเพื่อให้คนมั่นใจว่าเราได้ไปร่วมกับมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ในการพัฒนาวิจัยเรื่องน้ำมันสกัดและอาหารโปรตีนจากด้วงสาคู 100 เปอร์เซ็นต์ โดยกระบวนการคือเราจะนำตัวด้วงสาคูที่ผ่านการเลี้ยงแบบออร์แกนิกมาสกัดให้เป็นน้ำมันและให้โรงงานผลิตออกมาเป็นแคปซูล ซึ่งจะมีตรารับรอง GMP ต่างๆ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น”
สำหรับกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายหลักคือ กลุ่มเด็กและผู้ใหญ่ที่อายุ 40 ปีขึ้นไป เนื่องจากแคปซูลดังกล่าวจะช่วยในการเสริมสร้างโปรตีน มีโอเมก้า 3 เหมาะสำหรับเด็กเพื่อป้องกันไม่ให้ขาดสารอาหาร และผู้หญิงที่เข้าสู่ช่วงวัยทอง นอกจากนี้ ยังเหมาะสำหรับกลุ่มคนที่ออกกำลังกาย เล่นกล้าม สามารถรับประทานได้เหมือนกับรับประทานน้ำมันรำข้าว แต่ความแตกต่างอยู่ที่ความที่เป็นออร์แกนิก 100 เปอร์เซ็นต์ ตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำนั่นเอง
นอกจากนี้ เมื่อตัวด้วงสาคูที่ถูกสกัดเอาน้ำมันออกไปจนหมด ก็สามารถนำไปทำเป็นสแน็กด้วงสาคูซึ่งจะทำคล้ายๆ เป็นแบบแผ่นสาหร่าย ส่วนมูลของด้วงสามารถนำไปใช้ในการทำก๊าซชีวภาพและปุ๋ยเพื่อปลูกต้นอ่อนทานตะวันนับว่าเป็นการนำต้นสาคูและด้วงมาต่อยอดเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มได้เป็นอย่างดี
สุดท้ายนี้ ชานนท์ได้กล่าวด้วยว่า การผลิตสินค้าให้แก่ผู้บริโภค โดยเฉพาะอาหาร จำเป็นต้องให้ความสำคัญเรื่องของความสะอาด และต้องใส่ใจในการทำใช้กระบวนการตามธรรมชาติ หลีกเลี่ยงสารเคมีเพราะจะก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพได้ นอกจากนี้ การสร้างมูลค่าเพิ่มจากวัตถุดิบที่เหลือใช้ก็มีความจำเป็น เพราะทุกอย่างมีคุณค่า หากทำได้จะช่วยลดต้นทุน รวมถึงเป็นการช่วยสร้างงานให้แก่ชาวบ้าน ซึ่งสิ่งเหล่านี้เองจะเป็นปัจจัยที่เกื้อช่วยหนุนให้ธุรกิจเกิดความยั่งยืนในอนาคต
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลเพื่อความสำเร็จของธุรกิจ SME (เอสเอ็มอี)