การสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก นับเป็นเหตุการณ์สะเทือนใจที่ใครก็คงไม่อยากเผชิญ ทว่าบนพื้นฐานแห่งความเป็นจริง เราทุกคนต่างก็หลีกเลี่ยงเรื่องราวเหล่านี้ไปไม่ได้ เช่นเดียวกับ ดร.กุลจิรา สุจิโรจน์ ครั้งที่เธอต้องสูญเสียคุณพ่อไปตลอดกาล แต่จากเหตุการณ์ในครั้งนั้นกลายเป็นแรงบันดาลใจครั้งสำคัญ ให้เธอมองเห็นโอกาสและคิดที่จะทดลองทำ Memorial Product ขึ้นมาสักชิ้น เพื่อเป็นการเก็บความทรงจำไว้ให้ผู้ที่ยังอยู่ได้รำลึกถึง
จากจุดนี้กลายเป็นการเริ่มต้นธุรกิจบริการรูปแบบใหม่ที่มุ่งตอบสนองคุณค่าทางจิตใจเป็นหลัก ภายใต้การดำเนินของบริษัท ไมนด์มณี จำกัด และวันนี้ธุรกิจดังกล่าวยังสามารถคว้า รางวัลโดดเด่นด้านความคิดสร้างสรรค์ธุรกิจบริการ ในโครงการ SME Thailand Inno Awards 2015 มาครองได้สำเร็จอีกด้วย
“เหตุการณ์เมื่อครั้งที่คุณพ่อเสีย เรียกได้ว่าเป็นแรงบันดาลใจหลักเลย ที่ทำให้เราเริ่มคิดจะทำ Memorial Product ขึ้นมา ซึ่งพื้นฐานของเราก็มีความเชี่ยวชาญด้านวัสดุศาสตร์เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จึงมองเห็นหนทางว่าน่าจะพอทำได้ ประกอบกับตลาด Memorial Product ในต่างประเทศมีความนิยมอย่างมาก จึงได้กลายเป็นแรงสนับสนุนให้เราลองต่อยอดมาสู่ประเทศไทย โดยใช้เวลาลองผิดลองถูกอยู่นานร่วม 6 เดือน จนสามารถสร้างผลงานจากอัฐิ 100 เปอร์เซ็นต์ หรือที่เรียกว่า อัฐมณี ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นจุดเด่นในตลาดที่ยังไม่เคยมีใครทำมาก่อน”
ทั้งนี้ทั้งนั้น บริการของไมนด์มณีที่ทำให้กับลูกค้านั้น เรียกได้ว่า เป็นการตอบสนองคุณค่าทางจิตใจเป็นสำคัญ โดยผ่าน Memorial Product ที่ถูกรังสรรค์ขึ้นมาด้วยอัฐิ 100 เปอร์เซ็นต์ โดยไม่ผสมกับวัสดุอื่นๆ นั่นเป็นเพราะความตั้งใจที่จะให้ผลิตภัณฑ์ชิ้นนี้ เป็นเสมือนสิ่งแทนตัวของผู้ที่จากไป ซึ่งความงดงามที่เกิดขึ้นคือ อัฐิของแต่ละคนจะมีความแตกต่างกันออกไป ทั้งเนื้อและสีของอัฐิ โดยจะเป็นได้ทั้งสี Aquamarine เขียว หรือฟ้าแล้วแต่บุคคล
และเพื่อเป็นการเพิ่มมูลค่าให้ธุรกิจมากยิ่งขึ้น จากอัฐมณีเพียง 1 ชิ้น ได้มีนำมาต่อยอดสู่การเป็นอัฐิภาพ หรือการนำรูปภาพของผู้ที่เสียชีวิตไปผ่านกระบวนการเผาจนได้ออกมาเป็นสติกเกอร์ เซรามิก ซึ่งจะนำมาประกอบร่างกับอัฐิมณีอีกครั้งหนึ่ง และกลายเป็นอัฐิภาพที่สามารถใส่กรอบและมีขนาดเล็กสามารถพกพาได้
อย่างไรก็ดี ด้วยความที่เป็นธุรกิจบริการ และนวัตกรรมที่ทำนั้นเป็นงานที่ค่อนข้างละเอียดอ่อนทางความรู้สึก ดร.กุลจิรา จึงเน้นย้ำว่า สิ่งสำคัญคือการอัพเดตและพูดคุยกับลูกค้าอยู่เสมอๆ ซึ่งตัวเธอเองก็มีความตั้งใจและเต็มใจที่จะให้บริการอย่างดีที่สุด โดยขั้นตอนการให้บริการของไมนด์มณีนั้น ลูกค้าสามารถติดต่อสอบถามได้ตลอดเวลาผ่านช่องทาง Social Media อย่าง Facebook หรือ Line ซึ่งเป็นช่องทางที่ช่วยให้การสื่อสารนั้นง่ายและรวดเร็ว
“เมื่อลูกค้าสนใจที่จะใช้บริการของเรา ทางบริษัทจะจัดส่งกล่องสำหรับใส่อัฐิไปให้ตามที่อยู่ ลูกค้าก็แบ่งอัฐิใส่กล่องมา ซึ่งจะใช้ปริมาณมากน้อยขนาดไหน ก็ขึ้นอยู่กับความพรุนของกระดูกและขนาดชิ้นงาน โดยส่วนมากก็จะอยู่ที่ประมาณ 2-15 กรัม พร้อมแนบรูปภาพผู้เสียชีวิตใส่มาด้วย เมื่อกล่องส่งกลับมาถึงเราอีกครั้ง ก็เริ่มเข้าสู่กระบวนการทำ เราจะส่งไลน์และแจ้งให้ลูกค้าทราบตลอดว่า ขณะนี้ผลงานไปถึงขั้นไหนแล้ว หน้าตาของชิ้นงานเป็นอย่างไร และเมื่อทำเสร็จ พร้อมจัดส่งสินค้าในวันไหนเราก็จะอัพเดตข้อมูลตลอดเวลา”
“ที่สำคัญคือ การทำใบรับรองให้แก่อัฐินั้นเป็นพิเศษ โดยใส่ข้อมูลทั้งหมดว่าอัฐิเป็นของใคร ขนาดชิ้นงานเท่าไหร่ สีชิ้นงาน รูปร่างเป็นอย่างไร พร้อมหน้าปกที่จะมีรูปภาพและข้อความรำลึกถึง เป็นบริการพิเศษให้ ประกอบกับการเพิ่มบริการหลังการขาย หากว่าอัฐิมีการแตกหรือว่าเสียหาย ก็สามารถส่งกลับมาแก้ไขได้ โดยเราจะลดราคาให้ 50 เปอร์เซ็นต์”
นอกจากอัฐิภาพที่เป็นตัวชูโรงหลักแล้ว เธอคนนี้ยังต่อยอดชิ้นงานอย่าง อัฐิมณีจิวเวลรี่ และอัฐิรัตนะ เข้ามาเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้แก่ผู้บริโภค ซึ่งไม่เพียงแต่ความอัจฉริยะในการสร้างงานบริการรูปแบบใหม่เท่านั้น แต่เธอคนนี้ยังทิ้งทวนแนวคิดดีๆ ที่คาดหวังจะต่อยอดในอนาคต โดยผ่านโครงการวีรชนรำลึกที่มีความตั้งใจจะมอบอัฐมณีให้แก่ครอบครัวของทหารผู้สละชีวิตใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อเป็นการแสดงความขอบคุณและรำลึกถึงอีกทางหนึ่งอีกด้วย
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลเพื่อความสำเร็จของธุรกิจ SME (เอสเอ็มอี)