7 วิธีรับมือเมื่อลูกค้า Complaint ตัวอย่างจริงจากธุรกิจโรงแรม นำไปประยุกต์ใช้ได้กับทุกธุรกิจ

TEXT: ณัฏฐพัชร กมลพลพัตร

 

       เฮียเชื่อว่าพวกเราส่วนใหญ่คงเคยเจอกับประสบการณ์ที่ถูกแขก Complaint กันมาบ้างแล้วนะครับส่วนจะหนักเบาอันนี้ก็แล้วแต่ความรุนแรงของปัญหาและความไม่พอใจของแขก แน่นอนว่างานโรงแรมเป็นงานบริการและเราทำงานโดยขึ้นอยู่กับอารมณ์และความคาดหวังของแขกเป็นหลัก ดังนั้นวิธีการต่างๆ ที่ใช้ในการแก้ปัญหาจึงมีหลายปัจจัยเข้ามาเกี่ยวข้อง ทำให้แต่ละคนมีวิธีการในการจัดการเวลาถูกแขก Complaint ที่แตกต่างกัน

       ซี่งเมื่อปัญหามันมีความเฉพาะตัว (Customization) เพราะแขกแต่ละคนมีนิสัยใจคอไม่เหมือนกัน บางคนก็เป็นคนง่ายๆ สบายๆ ใช้การอธิบายและแก้ไขตามปกติก็สามารถแก้ไขปัญหาได้แต่บางคนก็เป็นคนที่ค่อนข้างจะดูแลยากสักหน่อยกรณีนี้ก็ต้องใช้หลายวิธีหลายตัวช่วยในการแก้ไขปัญหา

       นอกจากนี้ยังไม่นับตัวแปรอีกอย่างที่ทำให้เราคาดคะเนการแก้ไขปัญหาผิดพลาดไปอีกนั่นคือเรื่องของพฤติกรรมส่วนบุคคล  (Personality) ที่บางคนดูเหมือนจะเป็นคนง่ายๆ สบายๆ แต่พอเอาเข้าจริงๆ กลับต้องใช้ความพยายามมากกว่าปกติในการแก้ไขปัญหาเวลามา Complaint บางคนก็ดูเป็นคนที่ค่อนข้างจะเข้าใจยากและน่าจะบริหารจัดการข้อโต้แย้งด้วยยากแต่เอาจริงๆ กลับจัดการได้อย่างง่ายดายเวลามา Complaint

      จากประสบการณ์ในการทำงานโรงแรมของเฮียวันนี้เฮียอยากแบ่งปันแนวทางในการบริหารจัดการแขก Complaint ที่เฮียได้ใช้มาตลอดการทำงานเพื่อให้เป็นอีกหนึ่งแนวทางสำหรับทุกคนในการนำไปประยุกต์ใช้จัดการกรณีถูกแขก Complaint ซึ่งอย่างที่บอกว่าการจัดการปัญหาของพนักงานแต่ละคนนั้นขึ้นอยู่กับหลายตัวแปรทำให้การจัดการนั้นอาจใช้วิธีการที่แตกต่างกัน การแก้ปัญหาของคนหนึ่งอาจใช้ไม่ได้กับอีกคนหนึ่ง ดังนั้นแนวทางของเฮียไม่ใช่ตัวกำหนดความผิดถูกของแนวทางในการใช้แก้ไขปัญหานะครับ

1. S = Stop

       เมื่อถูกแขก Complaint ให้เราหยุดงานทุกอย่างที่ทำก่อนเพราะการหยุดงานที่ทำทุกอย่างแล้วหันมาให้ความสนใจกับสิ่งที่แขกจะเล่า สิ่งที่แขกจะบอก เป็นปราการด่านแรกที่สามารถลดความรุนแรงของอารมณ์แขกลงได้ ลองนึกภาพว่าถ้าเรากำลังโมโหจากปัญหาที่เกิดกับห้องพักและทำให้เราได้รับความไม่สะดวกเรากำลังตั้งใจที่จะแจ้งปัญหานั้นกับพนักงานแต่พนักงานยังทำงานไปด้วย คุยกับเราไปด้วย ความรู้สึกของแขกที่เกิดขึ้นมันคือการ “ไม่ใส่ใจต่อความเดือดร้อนและปัญหาของเขา” ทำให้อารมณ์และความรุนแรงของปัญหาอาจเพิ่มขึ้นไปได้อีกดังนั้นเมื่อถูกแขก Complain ให้หยุดทุกอย่างก่อนและหันมาให้ความสนใจแขกผู้เข้าพัก

2. L = Listening การรับฟัง

       แน่นอนว่าเมื่อแขกต้องการจะบอกปัญหาของเขาที่จะ Complaint เรามีหน้าที่ต้องรับฟังและต้องรับฟังด้วยความตั้งใจ จุดนี้เราต้องเข้าใจว่าแขกแต่ละคนมีวิธีการสื่อสารที่แตกต่างกันบางคนพูดน้อยแต่ได้ใจความ แต่บางคนก็สามารถถ่ายทอดได้มากกว่าปริมาณข้อมูลที่ออกมาจึงเยอะกว่าซึ่งในแต่ละข้อความที่ถูกถ่ายทอดออกมาเราต้องจับใจความให้ดีว่า “แขกกำลังสื่อสารอะไรกับเรา” สำหรับการจับใจความสำคัญของเนื้อหาที่แขกกำลัง Complaint นี้ถ้าเป็นแขกคนไทยที่พูดภาษาเดียวกันกับเราอาจจะทำให้เราจับใจความได้ง่ายดว่า แต่หากเป็นแขกต่างชาติในบางครั้งเราเจอแขกที่พูดเร็วผสมกับอารมณ์หงุดหงิด โมโห คำบางคำ ศัพท์บางตัวเราอาจได้ยินผิดเพี้ยนไปได้ ตรงนี้ฟังแล้วก็ต้องระมัดระวังในขั้นตอนความเข้าใจให้ดีเคล็ดลับหนึ่งในการจับใจความสำหรับแขกต่างชาติที่มา Complaint เพื่อให้เข้าใจว่าแขกกำลังเจอปัญหาอะไรสำหรับคนที่อาจจะไม่ได้มีพื้นฐานทางภาษามากนักคือให้สังเกต “คำที่แขกพูดซ้ำๆ หรือเป็นคำที่บ่งบอกถึงความผิดปกติ” ในขณะที่แขกบอกเราว่าเขาได้รับปัญหาอะไร ทั้งคำที่พูดที่สื่อถึงปัญหา เช่น “Water is leaking (น้ำรั่ว)” หรือ “Wifi it not working (สัญญาณไวไฟใช้ไม่ได้)” นี่เป็นขั้นตอนเบื้องต้นในการจับประเด็นถึงปัญหาที่แขกกำลัง Complain ในกรณีที่เราได้รับสารมาจากแขกค่อนข้างเยอะ แขกอาจจะพูดเร็ว พูดไม่หยุด วิธีนี้จะช่วยให้เราจับใจความของปัญหาได้

3. R- Repeat

       เมื่อเข้าใจปัญหาของแขกแล้วให้เราทำการทบทวนปัญหาซ้ำอีกครั้งว่าสิ่งที่เราเข้าใจนั้นถูกต้องหรือไม่ เพื่อให้เกิดความชัดเจนก่อนจัดการปัญหาที่แขก Complaint การทวนปัญหากับแขกควรทำด้วยความระมัดระวังเพราะอารมณ์ร่วมของแขกแต่ละคนไม่เหมือนกันบางคนถ้าเราไปทวนปัญหาซ้ำแขกอาจรู้สึกว่าเราไม่สนใจฟังเขาเลยไม่เข้าใจแม้เจตนาของเราเป็นไปเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องก็ตาม ดังนั้นการทวนปัญหาอาจต้องใช้จิตวิทยาในการถามกลับ เช่น หากเราเข้าใจว่าน้ำรั่วในห้องพักแขกเราอาจจะไม่ถามไปตรงๆ ว่า “น้ำรั่วในห้องพักใช่ไหม?” เราอาจใช้การถามอ้อมๆ เพื่อเป็นการ Repeat ปัญหา เช่นแจ้งแขกไปเลยว่า “ขออนุญาตให้ช่างขึ้นไปตรวจสอบห้องพักได้ไหม?” ซึ่งแขกอาจจะตอบกลับมาได้ว่า “ให้ไปดูที่จุดไหนเป็นพิเศษซึ่งถ้าเป็นเรื่องน้ำรั่วก็จะมีคำหรือประโยคที่เราเข้าใจได้ออกมาจากการแจ้งของแขก” นอกจากนี้การทวนปัญหากับแขกไม่ควรให้เกิน 2 ครั้งเพราะจะแสดงถึงความไม่เข้าใจปัญหาของเราซึ่งจะทำให้แขกหมดความเชื่อถือได้

4. B = Body Language การใช้ภาษากาย

       เมื่อถูก Complaint เราต้องระมัดระวังการแสดงออกของท่าทางและภาษากายต่างๆ เช่น ต้องไม่ยิ้มพร่ำเพรื่อ ไม่หัวเราะใส่แขก ไม่สัมผัสตัวแขก จริงๆ อยู่ว่าในอีกมุมหนึ่งการใช้ภาษากายก็เป็นอีกอย่างหนึ่งที่เข้ามาช่วยในการแก้ไขปัญหาและสร้างความพอใจให้แขกได้เพราะมันแสดงออกถึงความเข้าใจและความเห็นอกเห็นใจแขก แต่ถ้าเราใช้ผิดที่ผิดเวลา เช่น แขกกำลังโมโหแต่เรายิ้มให้แขกเพื่อต้องการลดความตึงเครียดของสถานการณ์แบบนี้ก็ไม่ควรทำเพราะเหมือนไปซ้ำเติมแขกเพราะการยิ้มส่วนใหญ่ใช้ในการแสดงความยินดีเป็นหลัก แต่หากเราพิจารณาจากสถานการณ์แล้วเห็นว่าสามารถแสดงภาษากายได้ให้เราคำนึงถึงความเหมาะสมในการแสดงออกของภาษากายไม่ให้มากไปหรือน้อยเกินไปนักเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เป็นอยู่

5. S = Solving การแก้ไขปัญหา

       ในระหว่างที่เรารับฟังปัญหาของแขกที่มา Complaint หากเราสามารถเข้าใจได้ว่าเกิดปัญหาอะไรขึ้นกับแขกจากการจับใจความการบอกเล่าจากแขกได้อย่างรวดเร็ว เราจะสามารถวางแผนการจัดการปัญหานั้นได้เร็วด้วยเช่นกัน ในการแก้ไขปัญหาให้เราประมวลผลก่อนว่า “ใครเกี่ยวข้องกับปัญหาบ้าง?” และ “ใครมีหน้าที่ทำอะไร? ในแต่ละส่วนของการแก้ไขปัญหา” เพื่อให้เราสามารถลำดับการติดต่อผู้เกี่ยวข้องให้สามารถเข้าไปแก้ไขปัญหาให้กับแขกได้ทันทีที่เรารับเรื่อง Complaint จากแขกเสร็จแล้ว เช่น น้ำไม่ไหลต้องแจ้งแผนกช่าง ห้องไม่สะอาดต้องแจ้งแผนกแม่บ้าน แขกจะย้ายห้องพักต้องติดต่อแผนกต้อนรับ แผนกแม่บ้าน เป็นต้น ในบางครั้งก็รวมถึง “เราต้องขออนุมัติหรือขออนุญาตจากใคร?” เพื่อแก้ไขปัญหาให้กับแขกอีกด้วย

6. C = Compensate การชดเชย

       ในการได้รับความไม่สะดวกจากการเข้าพักจนทำให้แขกต้อง Complaint หลักการชดเชยให้กับแขกโดยปกติแล้วให้เราพิจารณาถึงผลประโยชน์ของแขกเป็นหลักร่วมกับผลประโยชน์ของโรงแรมควบคู่กันไป การชดเชยให้กับแขกต้องเป็นสิ่งที่เหมาะสมกับความไม่สะดวกหรือความเสียหายที่แขกได้รับอย่างดีที่สุด เช่น หากเกิดปัญหากับห้องพัก การพิจารณาย้ายห้องและ Upgrade ให้กับแขกถือเป็นสิ่งที่สมควรเพราะนอกจากจะแก้ไขปัญหาให้กับแขกแล้วยังแสดงให้เห็นถึงความจริงใจในการแก้ไขปัญหาและความใส่ใจที่อยากให้แขกมีวันพักผ่อนที่ดีจึง Upgrade ห้องพักให้ เป็นต้น การ Compensate ต้อง ไม่น้อยไปและในขณะเดียวกันก็ไม่มากจนเกินไปเพราะนโยบายการบริหารงานในแต่ละโรงแรมนั้นแตกต่างกัน บางโรงแรมก็ให้แขกได้เต็มที่ตามแต่พนักงานจะพิจารณาแต่บางโรงแรมการให้มากขนาดนั้นอาจต้องตอบคำถามฝ่ายบริหารมากพอสมควรเพื่อหาเหตุผลที่ตัดสินใจไปแม้ในหน้างานพนักงานอาจมองว่าเหมาะสมกับการชดเชยให้กับแขกแต่ฝ่ายบริหารอาจไม่มองเช่นนั้นก็ได้

7. F- Feedback ผลตอบรับ

       จากการแก้ไขปัญหาให้กับแขกผู้เข้าพักเมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการจัดการแล้วต้องมีการสอบถามถึงความพึงพอใจของแขกผู้เข้าพักเสมอ กรณีนี้จะทำให้แขกรู้สึกว่าเราใส่ใจต่อปัญหาของเขาจริงๆ การสอบถามอาจเป็นการสอบถามต่อหน้า การส่ง Message ขึ้นไปสอบถามบนห้องพักแขก การส่งผลไม้ (Apologize Fruits) พร้อมการ์ดเขียนข้อความขออภัยในความไม่สะดวกและสอบถามความพึงพอใจ ลงชื่อโดยผู้จัดการทั่วไปหรือผู้จัดการแผนก เป็นต้น

        ทั้งหมดนี้คือหลักการคร่าวๆ ในการใช้แก้ไขปัญหาแขก Complain ในธุรกิจโรงแรมที่เฮียนำมาแบ่งปันกันนะครับหวังว่าจะเป็นประโยชน์และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้สำหรับทุกคนนะครับ

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

บทความสมาชิก

4 ความท้าทาย ของธุรกิจโรงแรมรักษ์โลก เมื่อผู้บริโภคยังยึดติดกับความสบาย

เมื่อเทรนด์รักษ์โลกยังคงได้รับความนิยมและเกิดการตื่นตัวในทุกมุมโลก แต่ไม่ใช่ทุกอย่างจะเอื้อให้ธุรกิจก้าวสู่ถนนสีเขียว นี่คือความท้าทายในการปรับตัวรับเทรนด์รักษ์โลกของธุรกิจโรงแรม

ทำไมธุรกิจ Online Travel Agency ในไทย ถึงไม่ประสบความสำเร็จ?

เคยสงสัยกันไหม? ว่าประเทศไทยมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามมากมาย มีโรงแรมทั้ง International Hotel Chain และแม้แต่ Local Chain ที่เติบโตไปในระดับโลก แต่กลับไม่ประสบความสำเร็จในการสร้าง Platform รับจองห้องพักในรูปแบบ OTA (Online Travel Agency) ของตนเอง

ลูกค้าขอสถานะ Confidential Guest ธุรกิจโรงแรมทำอย่างไร? ปกป้องความลับแขกได้ ไม่ละเมิดความเป็นส่วนตัว

โดยปกติแล้วโรงแรมเราจะมีแขกประเภทหนึ่งที่ขอสถานะ Confidential Guest (CFG) ต้องการปกปิดการเข้าพักเป็นความลับทั้งเรื่องห้องพัก กิจกรรมต่างๆ ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัยและ Privacy ซึ่งหลักๆ เลยก็จะเป็นแขกระดับ VIP หรือ VVIP ในความเป็น CFG ก็มีข้อยกเว้นเหมือนกัน เช่น หมายจับ หมายศาล อันนี้โรงแรมก็ไม่สามารถฝ่าฝืนได้ แต่ก็ต้องตรวจสอบให้ดี